โควิด-19เป็นตัวเร่งให้ Digital Health หรือHealth Tech ในไทยเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น และกลายเป็น NewNormal ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ทำให้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเพื่อมาสนับสนุนการให้บริการทางสุขภาพที่หลากหลาย
ทั้งนี้ภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ตั้งแต่ปลายไตรมาสแรกและต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้ ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งต้องเร่งปรับตัวและชะลอการลงทุนเพื่อรอให้สถานการณ์คลี่คลายพร้อมเปิดรับต่างชาติที่จะเข้ามารักษาพยาบาลในไทย แต่ล่าสุดมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งใหม่เกิดขึ้นในชื่อของ'เมดพาร์ค' เปิดให้บริการในใจกลางย่านธุรกิจบนถนนพระราม4
ทั้งนี้ในอนาคตมีเป้าหมายยกระดับให้เป็นสถาบันการแพทย์ที่มีความเป็นเลิศทั้ง 3 ส่วนคือ การบริการทางการแพทย์ การเรียนสอน และการวิจัย เพื่อสนับสนุนให้บุคลากรเพิ่มพูนองค์ความรู้ให้ก้าวหน้าอยู่เสมอและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ นำไปสู่แนวทางการดูแลรักษาคนไข้ โดยเฉพาะโรคยากและซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับมูลค่าการลงทุนของโครงสร้างนี้รวมประมาณ7,000 ล้านบาท และได้สิทธิและประโยชน์ทางด้านภาษีอากรจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน4 ส่วน คือ ศูนย์หัวใจ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์ไต และศูนย์วินิจฉัยแล็บ สามารถให้บริการห้องตรวจผู้ป่วยนอก300 ห้อง และรองรับผู้ป่วยค้างคืนได้สูงสุด 550 เตียงเมื่อเปิดให้บริการเต็มโครงการ ส่วนในเฟสแรกขณะนี้เปิดให้บริการผู้ป่วยค้างคืนจำนวน205 เตียง และรองรับผู้ป่วยวิกฤตจำนวน 65 เตียง
นอกจากนี้ยังเดินหน้าสร้างเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพการบริการทางการแพทย์ในทุกด้านซึ่งจะเป็นแนวทางนำไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์