โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นภายในสนามกีฬาในเมืองจาลาลาบัดของอัฟกานิสถานขณะที่มีชาวอัฟกันราว 3,000 คนรอรับบัตรคิวเพื่อเข้ายื่นขอวีซ่าจากสถานกงสุลปากีสถาน ที่อยู่ห่างออกไป 5 กม. หลายคนเหยียบกันขณะพยายามเบียดเสียดเพื่อเข้าสนามกีฬา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 รายซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 11 คน และยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 10 คน ซึ่งมีผู้สูงอายุรวมอยู่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข่าวลือสะพัดในโซเชียลมีเดียว่า สถานกงสุลจะออกวีซ่าให้มากกว่าปกติ พอประตูสนามกีฬาเปิด ทุกคนก็วิ่งกรูเข้าสนามกีฬาจึงเกิดการเหยียบกัน และผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า การเหยียบกันเกิดขึ้นในส่วนแถวผู้หญิง ซึ่งแยกจากแถวของผู้ชายตามหลักศาสนาอิสลาม
สถานกงสุลปากีสถานเพิ่งกลับมาให้บริการออกวีซ่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากระงับไปนานเกือบ 8 เดือนช่วงการระบาดของโรคโควิด-19
ชาวอัฟกันหลายพันคนในจังหวัดนันกาฮาร์และจากจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาถึงสนามกีฬาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเพื่อขอวีซ่าสำหรับเดินทางเข้าปากีสถานเพื่อพบแพทย์หรือเยี่ยมญาติ แต่เนื่องจากมีผู้ต้องการยื่นขอวีซ่าจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการออกกฎว่าจะแจกบัตรคิวให้กับ 1,000 คนแรกเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือให้มารอรับบัตรคิวได้ใหม่ในวันรุ่งขึ้น
อัฟกานิสถาน ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงคราม มีโรงพยาบาลและสถานพยาบาลน้อยมาก ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องข้ามพรมแดนเข้าไปรับการรักษาในปากีสถาน ขณะที่ในปากีสถานมีผู้อพยพชาวอัฟกันอาศัยอยู่เกือบ 3 ล้านคน ซึ่งคนเหล่านี้หนีออกจากประเทศเนื่องจากความยากจน ความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติทางศาสนา
เอกอัครราชทูตปากีสถานประจำอัฟกานิสถาน ทวีตแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ และให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะร่วมมือกับอัฟกานิสถานเพื่ออำนวยความสะดวกให้การยื่นขอวีซ่ามีความราบรื่นและรวดเร็วมากขึ้น