"บัวแก้ว"แจงคณะทูตยันรัฐทำตามกม.-หลักสากลสลายชุมนุม

20 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศ จัดการบรรยายสรุปสถานการณ์การเมืองและการชุมนุมในประเทศไทย ให้แก่คณะทูตและผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ โดยนายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมกันบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตและผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและการชุมนุมในประเทศไทย รวมทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ (20ต.ค.) มีคณะทูตและผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ 84 คน รวมถึงระดับเอกอัครราชทูต 37 คน และผู้แทนจาก 6 องค์การระหว่างประเทศ เข้าร่วมรับฟังการบรรยาย ซึ่งปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้บรรยายให้คณะทูตทราบถึงสถานการณ์การชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา และความพยายามในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ที่มีการเปิดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมได้แสดงออกตามสิทธิเสรีภาพภายใต้กฎหมาย รวมทั้งมีกลไกในการนำข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา

นายธานี กล่าวต่อว่า ทางด้านโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้อธิบายกระบวนการดำเนินการขั้นต่อไปของรัฐบาล ในกระบวนการรับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องจากประชาชนทุกฝ่าย รวมทั้งการสร้างความเข้าใจกับประชาชน รวมถึงรองโฆษก สตช. ได้ชี้แจงถึงการดำเนินการของตำรวจ ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่ตามหลักสากล และดำเนินการอย่างมีขั้นตอนด้วยความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด 

นอกจากนี้ ส่วนทางออกของปัญหาสถานการณ์ของประเทศนั้น นายธานี ชี้แจงว่า รัฐบาลมีกลไกในการนำข้อเรียกร้องเข้าสู่รัฐสภาอยู่แล้ว แต่เมื่อมีแนวโน้มที่ก่อให้เหตุรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในวันที่ 14 ต.ค. เป็นการข้ามเส้นแบ่งที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการขัดขวางขบวนเสด็จ และยิ่งเพิ่มเติมความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโควิด -19 และพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ วันที่ 15 ต.ค.

ทั้งนี้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจในการสลายการชุมนุม ที่เป็นการป้องกันความรุนแรงระหว่างผู้ชุมนุมด้วยกัน กับฝ่ายตรงกันข้าม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยืนยันว่าประเทศไทยปฏิบัติตามขั้นตอนตามหลักสากลถูกต้อง และเป็นไปตามพันธกรณีกฎหมายประเทศไทยและกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนอย่างครบถ้วน ไม่ได้ปฏิบัติเกินเลยแต่อย่างใด

ส่วนความคาดหวังของการเปิดสภาฯ ว่าจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลต้องพิจารณาถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้เห็นต่าง ก่อนที่จะมีการแลกเปลี่ยนหารือกันในรัฐสภาส่วนคำสั่งของศาลให้ปิดสื่อบางสำนัก เป็นไปตามกระบวนการของศาล หลังจากมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ในประเด็นสาเหตุที่ทางกระทรวงการต่างประเทศ ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าฟังการบรรยายกับคณะทูต เพราะเป็นการบรรยายที่มีบริบทแตกต่างกัน แต่ไม่ได้มีประเด็นที่จะปิดกั้นสื่อ เพราะสื่อก็สามารถที่จะสัมภาษณ์ในประเด็นต่างๆ ได้อยู่แล้ว