svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

สหรัฐใช้วิธี "ปิดไมค์"สกัดพูดแทรกในดีเบต

20 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คณะกรรมการจัดการดีเบตของผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐรอบสุดท้ายกำหนดให้ใช้วิธีปิดไมโครโฟนของผู้สมัครคนหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้พูดแทรกขัดจังหวะคู่แข่งที่กำลังตอบคำถาม เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายอย่างที่เกิดขึ้นในดีเบตรอบแรก

คณะกรรมการจัดงานดีเบตผู้สมัครประธานาธิบดีประกาศเมื่อวานว่า ในการดีเบตรอบสอง ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย กำหนดจัดขึ้นที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซีในคืนวันที่ 22 ก.ย.โดยแบ่งเป็น 6 ช่วง ช่วงละ 15 นาที และผู้สมัครมีเวลาตอบคำถามคนละ 2 นาทีในช่วงเริ่มแรกของแต่ละช่วง โดยระหว่างนั้นผู้สมัครอีกคนจะถูกปิดไมโครโฟนเพื่อป้องกันไม่ให้พูดขัดจังหวะ และในช่วงเวลาที่เหลือในแต่ละช่วงจะเปิดไมโครโฟนของทั้งสองคนให้อภิปรายโต้เถียงกันได้ โดยหวังว่าทั้งสองคนจะเคารพเวลาของแต่ละฝ่าย

สหรัฐใช้วิธี "ปิดไมค์"สกัดพูดแทรกในดีเบต



ขณะที่ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า ทรัมป์จะเข้าร่วมการดีเบต แม้ว่ามีการเปลี่ยนกติกาในนาทีสุดท้าย โดยคณะกรรมการจัดงานเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับผู้สมัครที่ตัวเองสนับสนุน
การเปลี่ยนกติกาครั้งนี้มีขึ้นหลังจากทรัมป์พูดแทรกในช่วงที่โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตกำลังตอบคำถามหลายครั้งในการดีเบตครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ก.ย. และเกิดการโต้เถียงอย่างดุเดือดจนไบเดนต้องบอกให้รัมป์หุบปาก นอกจากนี้ทรัมป์คัดค้านการจัดดีเบตรอบสองในวันที่ 15 ต.ค.เป็นแบบออนไลน์ ทำให้ต้องถูกยกเลิกไป

ขณะเดียวกันทีมหาเสียงของทรัมป์ยังแสดงความไม่พอใจกับการเลือกหัวข้อสำหรับการดีเบตด้วย โดยแจ้งให้คณะกรรมการจัดงานเปลี่ยนหัวข้อเพื่อเน้นเรื่องนโยายต่างประเทศ ตามที่เคยตกลงไว้เมื่อหลายเดือนก่อน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคริสเทน เวลเกอร์ ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี นิวส์ ที่เป็นผู้ดำเนินรายการในดีเบต ประกาศหัวข้อคำถามไว้ ได้แก่ การต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ครอบครัวชาวอเมริกัน เชื้อชาติในอเมริกา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงของชาติ และภาวะผู้นำ
ทีมหาเสียงของทรัมป์ กล่าวหาว่า คณะกรรมการตัดทิ้งประเด็นต่างประเทศเพื่อช่วยเหลือไบเดน แต่ทีมหาเสียงของไบเดนโต้แย้งว่า ทีมหาเสียงสองพรรคกับคณะกรรมการตกลงเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วให้ผู้ดำเนินรายการเป็นคนเลือกประเด็น แต่ทรัมป์กำลังหาทางเลี่ยงคำถามเรื่องโควิด-19

logoline