นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ พรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นว่า รัฐบาลควรเป็นเจ้าภาพในการเสนอขอเปิดด้วยตนเอง เพื่อฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภา และเชื่อว่า การรับฟังความเห็นของสมาชิกเพื่อหาทางออก ตามมาตรา 165 จะได้ถูกดำเนินการ และหากเป็นไปได้อยากเห็นผลข้อสรุปของการรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย นำไปสู่การมีคณะทำงานหรือคณะกรรมาธิการ ที่ประกอบด้วย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้เป็นเวทีต่อเนื่องในการรับฟังความคิดเห็น และแสวงหาทางออกร่วมกัน คิดว่าจะเป็นทางออกของประเทศ ได้อย่างเป็นรูปธรรม
"รัฐสภาควรทำหน้าที่หาทางออกให้กับประเทศ เพราะในระบอบประชาธิปไตยถือเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ ถ้าเป็นเจ้าภาพจะเป็นที่ยอมรับได้ การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องการเห็นพ้องในประเด็นที่จะนำไปสู่ทางออกของประเทศโดยเร่งด่วน ส่วนเรื่องของระยะเวลาสิ่งไหนต้องเร็วที่สุด สิ่งไหนต้องปานกลาง หรือสิ่งไหนต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน เป็นเรื่องที่คณะทำงานชุดนี้ จะเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่รวดเร็ว"
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการหารือถึงความจำเป็นต่อการใช้ระยะเวลาในการประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยเป็นประเด็นที่ฝายความมั่นคงจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งจะใช้เท่าที่จำเป็น และอยู่ในเงื่อนเวลาที่จำเป็น ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะร่วมกับนายกรัฐมนตรีในการใช้ดุลยพินิจ โดยนายกรัฐมนตรีปราถนาแล้วว่า จะใช้ในช่วงเงื่อนไขที่จำเป็น
"ผมมีความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญหากเป็นไปได้จะนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาร่วมพิจารณาด้วยก็ได้ เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ต้องทำโดยเร็วที่สุด และเป็นเรื่องแรกในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญ" นายจุรินทร์ กล่าว