svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นักวิชาการแนะม็อบแก้รัฐธรรมนูญก่อนไปข้อเรียกร้องอื่น

19 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ยุทธพร อิสรชัย" ขอม็อบคณะราษฎรเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญก่อนไปสู่ข้อเรียกร้องอื่น แนะรัฐเลิกยึดติดกับวิธีคิดเดิมๆ เพราะไม่สามารถตอบโจทย์ปัจจุบันได้ ยอมรับรัฐประหารยากคาดเดาจะเกิดหรือไม่

20 ตุลาคม 2563 นายยุทธพร อิสรชัย นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และกฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ว่า หลังจากนี้โอกาสที่จะได้เห็นม็อบชุมนุมใหญ่พักค้าง จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นการชุมนุมที่คาดเดาไม่ได้ว่ายุทธศาสตร์หรือทิศทางจะออกมาในรูปแบบใด เนื่องจากไม่มีแกนนำ จึงทำให้การกำหนดทิศทางนั้นยากขึ้น

ส่วนการประกาศสถาการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในท้องที่กรุงเทพมหานคร มีความเหมาะสมหรือไม่นั้น นายยุทธพร ระบุว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น สะท้อนภาพให้เห็นในยุคที่การเมืองมีความผันผวน เมื่อถึงจุดหนึ่ง เมื่อเกิดการแก้ปัญหาทางการเมืองของรัฐบาล กำหนดกฎหมาย หรือยุทธศาสตร์ต่างๆ ภาครัฐยังคงผูกติดอยู่กับวิธีคิดแบบเดิม ไม่สามารถตอบโจทย์ และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของม็อบในปัจจุบัน

ด้านการที่ม็อบเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯนั้น ส่วนตัวมองว่าขณะนี้ต้องคุยกันในข้อเรียกร้อง ที่สามารถเป็นไปได้ก่อน อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญในการหารือเบื้องต้น ซึ่งเรื่องที่ยากต่อการแก้ไข ก็ไม่ควรหยิบยกมาพูดคุย เนื่องจากจะเป็นชนวนแห่งความขัดแย้งซ้ำซ้อน

นักวิชาการแนะม็อบแก้รัฐธรรมนูญก่อนไปข้อเรียกร้องอื่น



ส่วนหากเกิดความรุนแรงเกิดขึ้นจะนำไปสู่การรัฐประหารได้หรือไม่นั้น มองว่า ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าไม่มีโอกาสเกิดขึ้น ในประเทศที่ประชาธิปไตยยังไม่ตั้งมั่น การรัฐประหารมีโอกาสเกิดได้ตลอดเวลา แต่เป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะปัจจุบันมีวิกฤตทางเศรษฐกิจที่ซ้อนอยู่ ทำให้เป็นโดมิโนย้อนกลับมาสู่ปัญหาทางการเมือง

ทั้งนี้ มองว่าการเร่งเปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญ เปิดเวทีพูดคุยในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นกรอบใหญ่ที่จะสามารถทำให้ทุกอย่างสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในระดับหนึ่ง ลดปัญหาความขัดแย้งในสังคมลง ดังนั้น คนในสภาฯควรจะดำเนินการ โดยเฉพาะ ส.ส.และ ส.ว. หากย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563 ถ้าสภาฯรับหลักการ โอกาสที่สถานการณ์ไม่มายังจุดนี้ก็เป็นไปได้ และคงมีการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญในวาระที่ 2 แล้ว เป็นพื้นที่ที่ทำให้ทุกฝ่ายได้เข้ามาหารือกัน ดึงเข้าสู่กระบวนการปกติ แต่คงย้อนกลับไปไม่ได้แล้วสิ่งที่ควรเดินหน้าต่อ คือ การขับเคลื่อน หากเปิดประชุมสภาฯ ตามวาระปกติตนไม่แน่ใจว่าจะช้าไปหรือไม่ เนื่องจากใช้เวลาอย่างน้อยอีก 2 สัปดาห์ หรือวันที่ 1 พ.ย. 2563

ส่วนข้อเสนอการจัดสานเสวนานั้น นายยุทธพร เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว ส่วนการจะหาคนกลางที่เป็นที่ยอมรับทุกฝ่ายนั้นอาจหมดเวลาในการหาคนกลางไปแล้ว เพราะการมีคนกลางควรจะมาจากทุกฝ่ายพูดคุยกัย ดีกว่าการวนอยู่กับคำถามเดิมๆในการหาคนกลาง

logoline