ศ.สุชาติ! ขอประนามรัฐบาลที่สลายการชุมนุมที่เกินกว่าเหตุ ต่อเด็กนักเรียนและนักศึกษา

1.   เป็นที่รับทราบกันมาตั้งแต่ต้นปี 2563 ว่า นักเรียนนักศึกษาและประชาชน เบื่อหน่ายต่อรัฐบาลที่สืบทอดมาจากอำนาจรัฐประหาร 2557 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศโตโดยเฉลี่ยเหลือเพียง 2% ประชาชนจึงยากจนลงมาก การกระจายรายได้แย่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก คนจนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน จาก 4.8 ล้านคนในปี 2558 เป็น 6.7 ล้านคนในปี 2562 สิ่งเหล่านี้ทำให้ประชาชนนักเรียนนักศึกษามองเห็นแล้วว่า รัฐบาลทำให้ชาติไม่มีอนาคต ไม่มีความหวัง จึงไม่สามารถอดทนอีกต่อไป "ให้มันจบที่รุ่นเรา"
2.   เด็กนักเรียนนักศึกษาและประชาชนจึงได้เรียกร้องให้ (1) ประชาชนได้ทำรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย (2) ให้ยุบสภาที่วุฒิสภามาจากการแต่งตั้ง (3) ให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพราะสืบทอดอำนาจมาจากการรัฐประหารปี 2557 ทำให้เศรษฐกิจแย่ ไม่มีความเจริญเติบโต รัฐบาลสร้างหนี้สินจำนวนมาก ประเทศไม่มีอนาคต ประชาชนไม่มีงานทำ ยากจนลงมาก
3.   นักเรียนนักศึกษาได้เรียกร้องตามสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เป็นไปตามบทบัญญัติของสหประชาชาติ เรียกร้องอย่างสงบ มีแต่ร่มกันฝน ไม่มีอาวุธ ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญไทย
4.   หากเป็นประเทศประชาธิปไตยโดยทั่วไป รัฐบาลจะเกรงใจประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ รัฐบาลจะลาออก เพื่อให้ประชาชนได้เลือกผู้บริหารใหม่ แต่เมื่อมาจากเผด็จการ จึงเกาะเก้าอี้ไว้ หวังคงอำนาจไปเรื่อยๆ ไม่ฟังเสียงความเดือดร้อนของประชาชน นักเรียนนักศึกษาจึงต้องชุมนุมเรียกร้องหลายครั้งหลายหนตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา
5.   แต่เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563 หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศยุติการชุมนุมที่บริเวณ 4 แยกปทุมวัน กทม. เมื่อเวลาประมาณ 20.00 แล้ว เด็กนักเรียนนักศึกษากำลังทยอยกันกลับบ้าน รัฐบาลได้ใช้อำนาจให้ตำรวจฉีดน้ำผสมสีและสารเคมีเข้าไปที่ผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง พร้อมทั้งสั่งผู้ชุมนุมด้วยวาจาที่หยาบคาย รับไม่ได้ ลูกหลานไทยได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และยังใช้ตำรวจจับผู้ชุมนุมไปเป็นจำนวนมาก
6.   ผมจึงขอประนามการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุในการสลายการชุมชนของนักเรียน นักศึกษาและประชาชนในครั้งนี้ ขอให้ผู้สั่งการและผู้กระทำได้รับผลตามกฎแห่งกรรม ที่ทำไว้โดยเร็ว "ขอฝากมายังสถาบันต่างๆ ที่ดูแลรัฐบาลนี้ พิจารณาให้รัฐบาลลาออกไป" เพราะรัฐบาลนี้จะเป็นตัวถ่วงให้สถาบันต่างๆ ทั้งหลายล้มละลายไปด้วย ดังที่เกิดขึ้นมาแล้วในหลายๆ ประเทศ รัฐบาลเองก็ต้องรีบพิจารณาตนเองลาออกไปด้วย "ไม่มีรัฐบาลไหนในประวัติศาสตร์โลก ที่คุกคามทำร้ายประชาชนแล้วสามารถดำรงอยู่ได้" ศ.สุชาติ กล่าว