ผวาพบจระเข้ยาว 3 ม.มุดรั้วจะไปกินไก่

เมื่อเวลา16.00น. วันที่17ตุลาคม2563อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ191ภ.จ.อุดรธานี ว่ามีจระเข้ขนาดใหญ่พยายามมุดรั้วตาข่ายข้างบ้านเลขที่99ม.8ชุมชนบ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี และพยายามจะเข้าไปกินไก่ในเล้าภายในบริเวณบ้านเลขที่130/14ที่อยู่ติดกัน จึงเตรียมอุปกรณ์รุดออกไปตรวจสอบ จับส่งต่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ

ที่เกิดเหตุพบอาสากู้ภัยฯและชาวบ้านช่วยกันหาวิธีจับจระเข้ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ3เมตรเศษ น้ำหนักน่าจะไม่ต่ำกว่า80กิโลกรัม โดยใช้เวลา1ชั่วโมง จึงสามารถจับมันได้สำเร็จ โดยใช้เชือกทำเป็นบ่วงมัดปาก และลำคอ และโยนผ้าปิดตาของมันไว้ จากนั้นใช้เชือกไนล่อนลากตัวของมันออกมาในที่โล่ง เพื่อช่วยกันมัดขาทั้งสี่ข้าง ซึ่งชายฉกรรจ์5คน ช่วยกันจับและหามออกมาใส่รถตู้ฉุกเฉินของมูลนิธิฯ นำไปเก็บรักษาไว้ที่มูลนิธิฯ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ประมง จ.อุดรธานี มารับตัวไปในที่ปลอดภัยและห่างจากผู้คน ซึ่งอาสากู้ภัยฯต่างพากันตกใจ เนื่องจากไม่เคยจับจระเข้ขนาดใหญ่ เคยจับแต่งูขาดเล็ก งูเหลือม และตัวเงินตัวทอง

นางกาญจนา เสงี่ยมพงษ์ อายุ52ปี บ้านเลขที่130/14ม.8บ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะที่น้องสาวเดินมากับสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้าน เพื่อมาให้อาหารไก่ในเล้าบริเวณหลังบ้าน และเมื่อมาถึงเล้าไก่สุนัขได้เห่าและจ้องมองไปที่รั้วตาข่ายของบ้านที่อยู่ติดกัน น้องสาวจึงเดินไปดูพบว่าเป็นจระเข้ จึงรีบวิ่งไปบอกตนและสามีในบ้าน ให้ช่วยแจ้งอาสากู้ภัยฯมาจับ ซึ่งตนและสามีไม่เชื่อ และคิดว่าน่าจะเป็นตัวเงินตัวทอง หรือไม่ก็งูเหลือมที่เคยเข้ามาขโมยกินไก่ในเล้าเป็นประจำ พอตนและสามีมาดูก็พบว่าเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ รู้สึกตกใจมาก และไม่เคยคิดเลยว่าจะมีจระเข้ในชุมชนหมู่บ้านของเรา คาดว่าเป็นจระเข้เลี้ยงและคงหลุดออกมาจากแหล่งที่พักอาศัยของเจ้าของมัน

ด้านนางสาวพิชยา เชี่ยวการรบ หรือเจ๊หน่อย อายุ60ปี อยู่บ้านเลขที99ม.8ชุมชนบ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง เปิดเผยว่า ตนรู้สึกตกใจมากที่เพื่อนบ้านมาแจ้งว่าพบจระเข้ขนาดใหญ่อยู่ในรั้วบ้าน เพราะบ้านอยู่ห่างจากหนองน้ำ และสระน้ำ คิดว่าจระเข้ตัวนี้เป็นจระเข้เลี้ยงที่หลุดลอดออกมาจากที่พักอาศัย หรือบ้านของคนเลี้ยง และต้องขอขอบคุณอาสากู้ภัยมูลนิธิฯอย่างมากที่มาช่วยจับ เพราะจระเข้ตัวใหญ่มากและเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง

นายไพบูลย์ วงชัยยา หน.กลุ่มงานวิชาการ สน.ประมง จ.อุดรธานี เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า จระเข้ที่จับได้มีอายุมากกว่า1ปี ไม่มีเครื่องหมายหรืออุปกรณ์บ่งบอกที่มาของเจระเข้มาจากไหนมีความสมบูรณ์ไม่หิว และมีความเชื่องจับง่าย การตรวจพบเจระเข้ในลักษณะนี้จะต้องถูกส่งไปเก็บรักษาไว้ที่ ศูนย์ประมง จ.ขอนแก่น เพื่อรวบรวมส่งไปไว้ที่ศูนย์ฯ จ.พิจิตร ระหว่างรอประกาศหาเจ้าของ ซึ่งตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546จระเข้น้ำเค็มและจระเข้น้ำจืด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ลำดับที่34และ35และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ ส่วนในพื้นที่อุดรธานีมีการแจ้งเลี้ยง และครอบครองจระเข้13แห่ง ที่ อ.ประจักษ์1แห่ง,อ.หนองหาน1แห่ง,อ.ไชยวาน1แห่ง,อ.เพ็ญ2แห่ง อ.กุมภวาปี2แห่ง และ อ.เมือง6แห่งโดยในเขต ทน.อุดรธานี ไม่มีการแจ้งการครอบครองหรือเลี้ยง สำหรับจระเข้ตัวที่จับได้ น่าจะเป็นจระเข้เลี้ยง โดยไม่ได้รับอนุญาตถูกต้อง เมื่อประกาศหาเจ้าของคาดว่าคงไม่มีใครแสดงตัว หรือยอมรับเป็นเจ้าของ........