สื่อต่างชาติกับเหตุการณ์ฉีดน้ำสลายม็อบ

บีบีซีภาคภาษาอังกฤษ สื่อจากอังกฤษที่เกาะติดสถานการณ์ในไทยมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การนำของโจนาธาน เฮด เจ้าเก่า โดยบอกว่าผู้ประท้วงราว 2 พันคนได้มาชุมนุมกันที่ใจกลางกรุงเทพ และเนื่องจากตำรวจปราบจลาจลหลายร้อยนาย ได้ปิดกั้นสถานที่ประท้วงของเมื่อวันก่อน นักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่จึงย้ายการชุมนุมมาอยู่อีกจุดหนึ่ง ห่างออกมาจากจุดเดิมหลายร้อยเมตร พวกเขาถือป้ายคำขวัญที่เขียนว่า"ปล่อยเพื่อนของเรา" ซึ่งหมายถึงผู้คนมากกว่า 40 คนที่ถูกจับในสัปดาห์นี้ ฝูงชนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากไม่กี่สิบคน ไปเป็นหลายพันคน จากผู้ที่สัญจรไปมาที่แวะเข้ามาร่วมกับสิ่งที่ตอนนี้กลายเป็นอารมณ์แห่งการก่อจลาจลระดับชาติระหว่างการเดินทางกลับบ้าน มีการร่วมกันตะโกนด่านายกรัฐมนตรี และในขณะที่ตำรวจเริ่มรุกคืบเพื่อพยายามสลายฝูงชน ผู้ชุมนุมก็ร้องว่า "ออกไป ออกไป!" ต่อมามีการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ผู้ประท้วงบางคนบอกว่าน้ำที่ฉีดออกมา มีสารเคมีที่ทำให้แสบตา ซึ่งข้อมูลเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ
" ฉันต้องต่อสู้เพื่ออนาคตของฉัน " ผู้ประท้วงวัย 22 ปีคนหนึ่งบอก
งานนี้ผู้ประท้วงส่วนใหญ่แยกย้ายกันไปในเวลาต่อมา มีเพียงไม่กี่คนที่พยายามขัดขืนและถูกจับกุม จากนั้นผู้จัดการประท้วง ก็ขอให้ฝูงชนกลับบ้านและเตรียมการชุมนุมอีกครั้งในวันเสาร์ ขณะที่ตำรวจออกมาเตือนว่าเจ้าหน้าที่ "ออกคำเตือนแล้วที่จะจัดการกับการกระทำผิดกฎหมาย หลังจากนี้ ก็จะมีมาตรการที่เข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายต่อไป

ส่วนฝั่งเอพี ก็รายงานว่าตำรวจใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และพุ่งเช้าชาร์จเข้าใส่ฝูงชน เล่นเอาทั้งผู้ประท้วง ผู้สังเกตการณ์ และผู้สื่อข่าวต้องกระเจิดกระเจิง นักข่าวที่โดนน้ำเข้าไป บอกว่ามันทำให้รู้สึกแสบและเลอะไปด้วยสีน้ำเงิน ที่นำมาใช้เพื่อให้เป็นเครื่องหมายบนตัวผู้ประท้วง สำหรับเป็นหลักฐานในการจับกุมในภายหลัง
งานนี้ ดูเหมือนว่าตำรวจจะควบคุมสถานที่ชุมนุมได้ และฝูงชนส่วนใหญ่ก็ถอยไปตามถนนใกล้ ๆ กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งผู้จัดงานประท้วงบางคนแนะนำให้ผู้ชุมนุมไปหลบภัยหากพวกเขายังไม่กลับบ้านโดยตรง
ตำรวจบอกว่าผู้ประท้วงและตำรวจหลายคนได้รับบาดเจ็บระหว่างการผลักดันกัน และมีผู้ถูกจับกุม 7 คน ส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคฝ่ายค้านรายหนึ่งบอกว่ามีผู้ถูกจับกุม 100 คน
เอพีบอกว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีประยุทธ จันทร์โอชา ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับเมืองหลวงในวันพฤหัสบดี หนึ่งวันหลังจากที่เกิดความวุ่นวายกรณีขบวนเสด็จ ขณะที่แกนนำผู้ประท้วงหลายคนถูกรวบตัวไปแล้วตั้งแต่ประกาศภาวะฉุกเฉินมีผลบังคับใช้ เมื่อวันศุกร์ นักเคลื่อนไหวอีกสองคนก็ถูกจับกุมเนื่องจากส่วนร่วมกับกรณีขบวนเสด็จ และพวกเขาอาจต้องติดคุกตลอดชีวิตหากถูกตัดสินว่ามีความผิด

ส่วนรอยเตอร์ ก็เกาะติดสถานการณ์การประท้วง พร้อมกับรายงานเรื่องพระราชดำรัสของในหลวงที่บอกว่า ประเทศไทย "ต้องการคนที่รักประเทศ และรักสถาบันพระมหากษัตริย์"
รอยเตอร์บอกว่าจนถึงขณะนี้ ตำรวจก็ยังไม่ได้ใช้กำลังรุนแรงในการปราบปรามการประท้วงอย่างสันติ แม้ว่าผู้ประท้วงราว 50 คน รวมทั้งแกนนำหลายคนจะถูกจับกุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลห้ามการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนตั้งแต่วันพฤหัสบดี ด้านโฆษกตำรวจก็ออกมาปกป้องการใช้ปืนฉีดน้ำว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมแล้ว