ทรัมป์-ไบเดน แยกเวทีดวลวิสัยทัศน์ทางทีวี

ประธานาธิบดีทรัมป์ปรากฏตัวในการเสวนา ที่มีพิธีกรและประชาชนร่วมซักถามผู้สมัครเลือกตั้ง ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ซึ่งจัดและถ่ายทอดสดโดยสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีเมื่อคืนวาน ขณะที่อดีตรองประธานาธิบดีไบเดนไปร่วมการเสวนาที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย จัดโดยสถานีเอบีซี นิวส์ ในเวลาเดียวกัน หลังจากคณะกรรมการจัดการดีเบตเลือกตั้งตัดสินใจยกเลิกการดีเบตรอบสอง ที่เดิมกำหนดจัดขึ้นเมื่อวานสืบเนื่องจากทรัมป์เพิ่งหายป่วยจากโรคโควิด-19
ไบเดนโจมตีทรัมป์ว่า ไม่ยอมบอกความจริงแก่ประชาชนตามที่นักวิทยาศาสตร์เตือนเรื่องอันตรายของไวรัสชนิดนี้เพราะกลัวว่าชาวอเมริกันแตกตื่น แต่เขาตื่นตระหนกเสียเอง เขาพลาดโอกาสครั้งใหญ่ที่จะควบคุมการระบาดด้วยการพูดโกหกว่าเชื้อไวรัสจะหมดไปเอง ไบเดนตำหนิด้วยว่าทรัมป์ไม่ได้ทำหน้าที่ผู้นำในการรับมือกับการระบาด ไม่ยอมเปิดเผยสถานการณ์ระบาดที่แท้จริงและไม่รีบออกมาตรการป้องกันที่จำเป็น เพราะกลัวส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น

ขณะที่ทรัมป์ถูกถามซ้ำๆว่า เขามีผลตรวจไวรัสโคโรนาเป็นลบครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ก่อนได้รับการตรวจเมื่อวันที่ 1 ต.ค.และยืนยันว่าติดเชื้อ และเขาไม่อาจยืนยันชัดเจนว่า ได้ตรวจหาเชื้อในวันที่เข้าร่วมการดีเบตรอบแรกวันที่ 29 ก.ย.หรือไม่ เขายังคงโต้แย้งเรื่องประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยในการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ทรัมป์เลี่ยงตอบคำถามหลายเรื่องทั้งประกันสุขภาพและการจ่ายภาษี และยังใช้เวลาส่วนใหญ่โต้เถียงกับพิธีกร แต่กล่าวเป็นครั้งแรกว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งและถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น หากแพ้การเลือกตั้งในเดือนหน้า โดยกำชับด้วยว่าต้องเป็นการเลือกตั้งที่สุจริต

ส่วนไบเดนก็เลี่ยงที่จะยืนยันว่า สนับสนุนการเพิ่มจำนวนผู้พิพากษาศาลสูงหรือไม่และจะออกข้อบังคับให้ชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หรือไม่ แต่โจมตีนโยบายต่างประเทศของทรัมป์ว่าทำให้สหรัฐแยกตัวออกห่างจากประชาคมโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และการใช้นโยบาย "อเมริกามาก่อน"" กับชาติพันธมิตรทำให้ "อเมริกาโดดเดี่ยว"
การแยกกันแสดงวิสัยทัศน์โดยไม่มีทรัมป์ขัดจังหวะเหมือนดีเบตรอบแรก ทำให้ไบเดนสามารถตอบคำถามโดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายต่างๆได้มากขึ้น ขณะที่ทั้งสองคนมีกำหนดเข้าร่วมการดีเบตรอบสุดท้ายที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซีในวันที่22 ต.ค. แต่ยังไม่รู้ว่าจะจัดในรูปแบบไหน