เลขาฯประธานรัฐสภาปัดรัฐขอฝ่ายนิติบัญญัติงดประชุมหลังประกาศฉุกเฉิน

16 ตุลาคม 2563 นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา แถลงว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไม่มีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญและวิสามัญยังมีการนัดประชุมตามปกติ และที่สำคัญทางรัฐบาลไม่ได้มีการทำหนังสือขอมายังฝ่ายนิติบัญญัติให้งดประชุม ตามที่ข่าวออกมาส่วนกรณีที่กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการแจ้งว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ขอให้งดการประชุมนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ว่าในส่วนของกมธ.ชุดดังกล่าว มีการขอความร่วมมือจากผู้ใด แต่โดยทางการหากรัฐบาลหรือฝ่ายความมั่นคงจะขอความร่วมมือมา ก็ต้องมีเอกสารหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ยืนยันว่าไม่มีการขอความร่วมมือมาแต่อย่างใด และทราบว่ากมธ.ชุดนี้ ได้มีการนัดประชุมปกติในสัปดาห์หน้า

สำหรับกรณีที่มีกำลังทหารเข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในบริเวณรัฐสภาเมื่อวาน (15ต.ค.) นั้น ยืนยันว่าขณะนี้กำลังทหารได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ในเวลาประมาณ 20.00 น. และที่ต้องออกมาอธิบายเรื่องนี้ เพราะมีคนพยายามโจมตีประธานรัฐสภา ว่าทำไมถึงปล่อยให้มีกำลังหทารเข้ามาในรัฐสภา จึงต้องชี้แจงว่าการที่ทหารเข้ามาดูแลความปลอดภัยในบริเวณรัฐสภานั้น เนื่องมาจากการที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

"การเข้ามาดูแลความปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ ก็เป็นไปตามข้อกำหนดที่ออกตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่รัฐบาลได้ออกมา รัฐสภาไม่ได้มีการร้องขอ ไม่ได้มีการดำเนินการทั้งสิ้น เป็นการดำเนินการของฝ่ายรัฐบาลในการดูแลความปลอดภัยตามปกติ" นายราเมศ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ไปเยี่ยมกำลังทหารที่อยู่ในรัฐสภา พร้อมกับได้เตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปมอบให้ และหลังจากนั้นประธานรัฐสภาได้แจ้งไปยังรัฐบาล ว่าบริเวณรัฐสภายังไม่มีสถานการณ์ใด ที่จะบ่งบอกว่าเป็นกรณีที่น่ากังวล หรือว่าจะเกิดความวุ่นวาย และได้ขอให้กองกำลังทหารได้ออกไปจากพื้นที่บริเวณของรัฐสภา พร้อมขอขอบคุณความห่วงใยในเรื่องของความปลอดภัยของรัฐสภา

"และที่ผมต้องเน้นย้ำว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้กองกำลังทหารเข้ามาในรัฐสภานั้น เพราะรัฐสภามีมาตรการ ที่ได้มีการดูแลโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้มีการออกมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่บริเวณรัฐสภาในช่วงการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งก็มีการกำหนดรายละเอียดไว้ค่อนข้างชัดในกรณีของการเข้าออก การคัดกรองบุคคลในการดูแลรักษาความปลอดภัย มีการกำชับห้ามมีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิดหรือวัตถุอันตรายเข้าในรัฐสภา นี่เป็นกระบวนการปกติที่รัฐสภาได้มีความเข้มงวดในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุผลที่ขณะนี้ยังไม่ทีความตำเป็นที่จะต้องให้มีกองกำลังทหารเข้ามาในบริเวณรัฐสภาเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย" นายราเมศ กล่าว