นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์กล่าวหารัฐบาล ต่อการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ชอบธรรม , ไม่เป็นตามข้อเท็จจริง และควรใช้วิธีสันติ ประเด็นดังกล่าวอยากจะสะท้อนไปยังพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องเข้าไปดูแลสถานการณ์เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ไม่ได้ใช้อำนาจเหมือนรัฐบาลในอดีต สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การที่ผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฏร สร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงให้กับประเทศ กระทำในสิ่งที่ย่ำยีหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะการจาบจ้วงสถาบัน ถึงขั้นกระทำการขัดขวางขบวนเสด็จ ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจากหลายกลุ่ม ประกาศระดมพลออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้รัฐบาลไม่อยากให้เกิดบรรยากาศของการเผชิญหน้า จึงจำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหว
"ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้านยังยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จะต้องเข้าใจและเห็นใจในสิ่งที่รัฐบาลทำ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พยายามประคับประคอง อะลุ่มอล่วย นักศึกษามาโดยตลอด มองนักศึกษาเหมือนลูกหลาน ไม่เคยมองเป็นคู่ขัดแย้ง เพราะฉะนั้นม็อบคณะราษฏรควรเคลื่อนไหวตามกรอบกฏหมาย เชื่อว่ารัฐบาลก็พร้อมที่จะเจรจาพูดคุย เพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ต้องไม่เกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบัน เพราะสถาบันดีอยู่แล้ว เป็นเสาหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของประเทศชาติและประชาชน ส่วนข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำนั้น ไม่ได้เป็นอำนาจของรัฐบาล แต่เป็นอำนาจของกระบวนการยุติธรรมของศาลจึงอยากให้ทุกฝ่ายใช้สติช่วยกันประคับประคองให้ประเทศเดินหน้าไปให้ได้ อย่านำประเทศไปสู่ความขัดแย้งอีกเลย วันนี้ต่างประเทศยังต้องสู้กับโควิด-19 แต่ประเทศไทยกลับมาขัดแย้งกันเอง เสียดายโอกาสที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ อยากให้ทุกฝ่ายทบทวนแล้วช่วยกันหาทางออกร่วมกันให้กับประเทศ" นายธนกร กล่าว