svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"จตุพร"ย้ำการต่อสู้ไม่มี"แพ้-ชนะ"ได้ตลอดเวลา

15 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"จตุพร พรหมพันธุ์" ร้องรัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมถูกควบคุมได้สิทธิ์ประกันตัวกลับสู่อิสรภาพ ย้ำการต่อสู้ไม่มี "แพ้-ชนะ" ได้ตลอดเวลา เตือนทุกฝ่ายเลิกโหนสถาบันฯ มาใส่ร้ายทางการเมือง ลั่นควรพุ่งเป้ามาไล่ "ประยุทธ์" เหมาะที่สุด

16 ตุลาคม 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวได้สิทธิ์ประกันตัวกลับสู่อิสรภาพ ซึ่งส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกผู้ชุมนุมและแกนนำที่ถูกจับกุมหลังสลายการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 14ต.ค.ซึ่งเป็นสัจธรรม ขณะที่ผู้มีอำนาจควรใช้เมตตาธรรมเข้าแก้ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดจึงจะเกิดประโยชน์

"แม้ผมเชื่อว่าการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ครั้งนี้ ไม่แตกต่างจากการทำรัฐประหารในอดีตของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่อีกด้านหนึ่งเห็นว่า เมื่อผู้ชุมนุมรับรู้ถึงประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแล้ว พวกเขาบอกให้ประชาชนออกนอกพื้นที่ กลับบ้านและยุติการชุมนุม จึงถือว่า เป็นความร่วมมือ และไม่ควรมีเหตุการณืต้องใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ต่อไปอีก" นายจตุพร กล่าว

ทั้งนี้ แกนนำส่วนที่เหลือเรียกร้องให้ไปรวมตัวที่แยกราชประสงค์วานนี้(15 ต.ค.)เวลา 16.00 น. คงเป็นความรู้สึกสะท้อนถึงความเจ็บปวดที่เห็นแกนนำและเพื่อนถูกจับกุม เพราะในความเป็นจริงแล้ว การปฏิบัติทำได้ยากลำบากยิ่ง ซึ่งหลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือและเลิกชุมนุมแล้ว การเอาความผิดกับผู้ชุมนุมคงใช้ไม่ได้ เพราะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในขณะที่มีการชุมนุมและได้รับความร่วมมือจากผู้ชุมนุม โดยยุติการชุมนุม ส่วนการจับกุมแกนนำนั้น เป็นเรื่องของหมายจับเก่าเท่านั้น

"เมื่อไม่มีเหตุ คือ การชุมนุมแล้ว นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีควรยกเลิกได้ทันที หากอ้างห่วงใยในสถานการณ์ 16.00 น. วานนี้ (15 ต.ค.)แล้ว ผมว่าเกิดขึ้นได้ยากลำบากมาก เพราะบรรยากาศขณะนี้เหมือนอยู่ในช่วงรัฐประหารใหม่ๆ ที่สั่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ดังนั้น ถ้าไม่มีสถานการณ์ใดๆแล้ว ควรยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินเสีย เพราะเงื่อนไขตามมาตรา 9 และ 11 นั้น มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ" ประธาน นปช. ระบุ




"จตุพร"ย้ำการต่อสู้ไม่มี"แพ้-ชนะ"ได้ตลอดเวลา



นายจตุพร กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ชุมนุมต่างๆในแต่ละยุคสมัยนั้น เมื่ออยู่ในคุก ย่อมมีความรู้สึกในฐานะเป็นมนุษย์ หรือช่วงถูกควบคุมตัว จะทำให้เกิดความได้คิด ดังนั้น รัฐบาลควรให้สิทธิการประกันตัวต่อในฐานะความเป็นมนุษย์ด้วย ส่วนตัวยึนหยัดในการต่อสู้เรียกร้อง ทั้งส่วนตัวและองค์กร นปช. เสมอมา ว่าต้องยึดหลักแนวทางระบอบประชาธิปไตยภายใต้พระมหากษัตริย์เป็นมุขมาตลอด จึงมีความเชื่อให้สถาบันฯ อยู่เหนือการเมือง 

"ฝ่ายใดจึงไม่ควรโหนสถาบันฯ มาใส่ร้ายทำลายทางการเมืองอีกฝ่ายที่คิดต่างให้เป็นศัตรู ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเสนอให้มีข้อเรียกร้องเพียงข้อเดียวคือ ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก เพื่อหลบหลีกการถูกเหยียบย่ำ โดยกลุ่มเอาสถาบันฯ มากล่าวหาคนอื่น วันนี้สถานการณ์บ้านเมือง เมื่อไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ควรยกเลิกฉุกเฉินแล้ว หากไม่ยกเลิก ม็อบไปชุมนุมที่ นนทบุรี หรือ ปทุมธานี จะตามไปประกาศหรือไม่ หากยิ่งเดินหน้าต่อไปยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น และไม่ส่งผลดีต่อประเทศเลย" ประธาน นปช. กล่าว

สำหรับการต่อสู้ทุกเหตุการณ์ต้องเน้นชนะทางการเมือง คือ การรักษาความชอบธรรมไว้ให้ เพราะถ้าแพ้ก็แพ้ทุกอย่าง ตนจึงย้ำว่า แต่ละเหตุการณ์ เป็นประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์นั้นๆ ในยุคนั้นๆ ซึ่งแต่ละประวัติศาสตร์จะไม่เหมือนกัน ตนจึงออกมายืนคัดท้ายช่วยให้คนหนุ่มสาวคิด และให้กำลังใจกัน แม้ถูกประชดประชันต่อว่าหนักหน่วง แต่ตนไม่อีนังขังขอบกับเกียรติยศชื่อเสียง

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญ คือ มีความปรารถนาดี มีความสุขที่เห็นคนหนุ่มสาวลุกขึ้นต่อสู้ทางการเมือง และเชื่อว่าจะสามารถฝากความหวังในการรับใช้ประเทศชาติได้ ส่วนตัวไม่ต้องการให้สูญเสียกำลังใจ หวังว่าจะซึมซับรับกับเหตุการณ์ชุมนุมไว้เป็นบทเรียน เนื่องจากในสมรภูมิต่อสู้ มีการล้มแล้วลุกเป็นปกติ และไม่มีแพ้-ชนะได้ตลอดเวลา

นายจตุพร กล่าวย้ำว่า การใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เมื่อไม่มีเหตุจำเป็นต้องประกาศใช้แล้ว การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไว้ไม่เกิดประโยชน์อันใดกับบ้านเมืองในยามนี้ อีกทั้ง ขอให้คนถูกจับกุมได้รับการประกันตัว ได้รับอิสระภาพ ซึ่งการต่อสู้ต้องมีเมตตาต่อกัน และเรียกร้องให้ลดข้อเรียกร้องลง มามุ่งเน้นไปกดดันไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่





logoline