svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ดีอีเอส"กร้าวเอาผิดโซเชียลละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินโทษจําคุก/ปรับ

15 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รมว.ดิจิทัล, กสทช. ประชุมผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต และค่ายมือถือ หลังนายกฯประกาศ ภาวะฉุกเฉินฯ ออกข้อกำหนด ควบคุม ห้ามเสนอข่าว จำหน่ายสิ่งพิมพ์ นำเข้าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้าข่ายทำให้เกิดความหวาดกลัว บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ย้ำหากพบความผิดจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ เตือน" ไลฟ์สด" ก็อยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี

วันที่ 15  ตุลาคม  นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และนายไตรรัตน์  วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ  คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)   ในฐานะรักษาการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)   ได้ประชุม  เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ระหว่าง กสทช., ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย  

ทั้งนี้   จากการที่  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2563 เวลา 04.00 น.  โดยข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ข้อ 2 ระบุไว้ว่า    ห้ามเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด รวมตลอดทั้งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์บรรดาที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนในทั่วราชอาณาจักร




"ดีอีเอส"กร้าวเอาผิดโซเชียลละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินโทษจําคุก/ปรับ





ขณะที่ ในส่วนบทบาทของกระทรวงฯ ที่ผ่านมาก็มุ่งแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลหรือนำเข้าข้อมูลผิดกฎหมายสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ช่วงนี้ คือ มาตรา 14 (2), 14 (3) และมาตรา 27
 มาตรา 14 ระบุว่า ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ   (2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
และ (3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

"ดีอีเอส"กร้าวเอาผิดโซเชียลละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินโทษจําคุก/ปรับ


เมื่อกระทรวงฯ มีคำสั่งศาลถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังไม่ดำเนินการนำข้อมูลที่ผิดกฎหมายออก มาตรา 27 ระบุว่า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา 18 หรือมาตรา 20 หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา 21 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง


นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อขอความร่วมมือทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันเฝ้าระวัง และดำเนินการต่อข้อมูลและเว็บไซต์ไม่เหมาะสม รวมทั้งให้ความร่วมมือทำการลบ/ปิดกั้นข้อมูลและเนื้อหาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือสื่อสังคมออนไลน์ ที่ผิดกฎหมาย ทั้งในส่วนของการละเมิด พรก.ฉุกเฉินฯ และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

"ทุกคนสามารถแสดงสิทธิเสรีภาพ ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะการโพสต์ข้อความผ่านโซเชียล เว็บไซต์ต่างๆ ขอให้กระทำด้วยความระมัดระวัง งดเผยแพร่ข้อความที่เป็นเท็จ บิดเบือนหรือข่าวปลอม รวมถึงต้อง ไม่ยุยง ปลุกปั่น สร้างความแตกแยกในสังคม ไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ ต้องไม่ละเมิดสถาบันหลักของประเทศ เพราะการกระทำดังกล่าวจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ รวมถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ประกาศใช้ล่าสุดด้วย" 


นายพุทธิพงษ์   กล่าวว่า   นอกจากการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ หรือตามโซเชียลมีเดียแล้ว อยากให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกราย ติดตามการไลฟ์สดด้วย ซึ่งกระทรวงฯและรัฐบาลได้ติดตามและเก็บข้อมูลไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. บางกลุ่มอาจมองว่าไม่มีปัญหาก็ไลฟ์สดไปเรื่อยๆ  แต่หากพบว่าการไลฟ์สดนั้น มีการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมฯ และพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการตามกฏหมายทันที และยิ่งตอนนี้ทางรัฐบาลได้บังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจัง ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวังการเผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือนไม่เป็นจริง และไม่อยากให้มีการดำเนินคดีเกิดขึ้น จึงอยากฝากให้ประชาชนระมัดระวัง เพราะมีการติดตามอยู่ตลอดเวลา  โดยวันพรุ่งนี้ ( 16)  ตนจะรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษทราบด้วย



"ดีอีเอส"กร้าวเอาผิดโซเชียลละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินโทษจําคุก/ปรับ





logoline