สี จิ้นผิงสั่ง น.ย. จีน ทุ่มแรงกายแรงใจ เตรียมทำสงคราม

สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานว่าในระหว่างการตรวจเยี่ยมเหล่านาวิกโยธิน ของกองทัพปลดแอกประชาชนในเมืองเฉาโจว ผู้นำจีนบอกกับทหารให้ "รักษาการระดับการเตรียมพร้อม" และเรียกร้องให้พวกเขา "จงรักภักดีอย่างแท้จริง บริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง และไว้ใจได้อย่างแท้จริง"
จุดประสงค์หลักของการเยือนมณฑลกวางตุ้งของประธานาธิบดีคือการกล่าวสุนทรพจน์ในงานครบรอบ 40 ปีของเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2523 
แต่การเยือนหน่วยทหาร ก็เกิดขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯยังคงอยู่ในจุดสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ จากปัญหาเรื่องไต้หวันและไวรัสโคโรนา 
เมื่อวันจันทร์ ทำเนียบขาวแจ้งให้สภาคองเกรสสหรัฐทราบว่ามีแผนที่จะเดินหน้าขายระบบอาวุธชั้นก้าวหน้า 3 ระบบให้กับไต้หวัน ซึ่งรวมถึงระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่ขั้นสูง (HIMARS) 
ในการตอบสนอง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกมาเรียกร้องให้วอชิงตัน "ยกเลิกแผนการขายอาวุธใด ๆ ให้กับไต้หวันในทันที" และตัด "ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสหรัฐ - ไต้หวัน" ทั้งหมด
แม้ไต้หวันจะไม่ได้ถูกปกครองโดยจีน แต่ทางการปักกิ่ง ก็ยืนยันว่าไต้หวันเป็นส่วนสำคัญของจีน และสี จิ้นผิง ก็ไม่เคยปฏิเสธว่าจะไม่ใช้กำลังเพื่อยึดไต้หวัน หากว่าจำเป็น

แม้รัฐบาลจีนจะไม่เห็นด้วย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและไทเปก็ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นในยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  โดยเมื่อเดือนสิงหาคม อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐที่เดินทางไปเยือนไต้หวัน 
ปักกิ่งตอบโต้เรื่องนี้ โดยการเพิ่มการฝึกซ้อมทางทหารรอบ ๆ ไต้หวัน เครื่องบินรบของจีนเกือบ 40 ลำได้ข้ามเส้นแบ่งระหว่างแผ่นดินใหญ่และไต้หวันช่วงวันที่ 18-19 กันยายน ซึ่งประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของของไต้หวันเรียกเรื่องนี้ว่า "การคุกคามของการใช้กำลัง"

เมื่อวันที่ 16 กันยายน นายมาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐบอกว่าจีน "ไม่สามารถเทียบได้กับสหรัฐฯ" ในแง่ของกำลังทางเรือ และระบุว่าปักกิ่งเป็น "อิทธิพลที่มุ่งร้าย" จีนและรัสเซียกำลังใช้เศรษฐศาสตร์ของนักล่า การโค่นล้มทางการเมือง และกำลังทางทหารเพื่อพยายามเปลี่ยนดุลอำนาจให้เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ โดยที่คนอื่นต้องเป็นคนจ่าย
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม รัฐมนตรีรายนี้ได้ประกาศแผน "Battle Force 2045" ซึ่งเรียกร้องให้มีการขยายและปรับปรุงกองทัพเรือสหรัฐให้มีเรือจำนวนทั้งแบบที่ใช้กำลังพล และแบบอัตโนมัติ 500 ลำภายในปี2588