"อนุชา" มั่นใจเต็มร้อยไม่เกิดม็อบปะทะม็อบ

14 ตุลาคม 2563 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวมั่นใจการชุมนุมวันนี้ (14ต.ค.) จะไม่เกิดเหตุการณ์ปะทะซึ่งกันและกัน เพราะทุกภาคส่วนยึดมั่นในระบอบแนวทางประชาธิปไตย สำหรับความเห็นต่างนั้นเกิดขึ้นได้ บนพื้นฐานที่ทุกคนเป็นคนไทย และเป็นเรื่องปกติ จึงไม่คิดว่าจะมีอะไรรุนแรง ซึ่งขอย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ยอมให้เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มมวลชน เพราะจะดูแลในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกกลุ่มอย่างเต็มที่

ส่วนในทำเนียบรัฐบาลมีวอร์รูมที่คอยเกาะติดสถานการณ์เป็นปกติอยู่แล้ว เพราะต้องดูแลความสงบเรียบร้อย โดยภาครัฐจะต้องดูแลไม่ให้เกิดสิ่งที่เกินเลยไปจากกรอบกฎหมายกำหนด และ ณ เวลานี้ยังคงมั่นใจ 100% ว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะสังคมไทย เป็นสังคมแห่งความอะลุ่มอล่วย และขอฝากไปยังบางภาคส่วน ว่าอย่าย่ำยีกันเกินไป สังคมจะได้ไปได้ ประชาธิปไตยจะได้เบ่งบาน ขอให้พูดคุยและหาทางออกร่วมกัน และสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ 

"ไม่ใช่ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะตัดสินใจแทนประชาชน และหากผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง ทางรัฐบาล จะมีตัวแทนออกมารับหนังสืออยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าได้มอบหมายให้ใครทำหน้าที่นี้ ซึ่งผมก็พร้อมที่จะเป็นตัวแทน และนายกรัฐมนตรีเองก็ได้กำชับว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เพราะเป็นห่วงประชาชนทุกกลุ่ม" นายอนุชา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวกังวลหรือไม่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลเหมือนในอดีต เพราะเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมคิดได้ และรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมจะได้รับการตอบรับขนาดไหนนั้น ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส. ด้วย สิ่งที่เรียกร้อง สภาฯได้นำเข้ามาหารือ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในการเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษา แต่เหนืออื่นใดสิ่งที่เรียกร้องจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ต้องอยู่ที่การพูดคุยตกลงกัน โดยให้สภาฯเป็นเครื่องตัดสิน เพื่อความเรียบร้อยของสังคม ไม่เช่นนั้นวันข้างหน้าก็จะไม่จบสิ้น จะเป็นวังวนเดิมๆในการเคลื่อนไหวบนท้องถนน

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า หากร่างทั้ง 6 ญัตติถูกตีตก รัฐบาลจะเสนอร่างเข้าไปใหม่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า อย่าพึ่งคาดการณ์ว่าจะตกหรือไม่ตก อยากให้เป็นกระบวนการที่มีการพูดคุย และหารือกันในรัฐสภา จะตอบโจทย์ปัญหาของแผ่นดินได้ดีที่สุด จะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้เกิดในสภา และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน และส่วนในฐานะ ส.ส.คาดหวังในสิ่งที่จะสามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ และเป็นทางออกของประเทศชาติ เพื่อเป็นประโยชน์ของประชาชนได้อย่างแท้จริง