ย้อนไปเมื่อ พุทธศักราช 2560 กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดนิทรรศการพิเศษ เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย" ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
โดยนิทรรศการพิเศษครั้งนั้น จัดแสดงขึ้นเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ทรงมีต่อการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกศิลปวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วย งานด้านโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์, งานด้านสถาปัตยกรรมและช่างสิบหมู่, งานด้านภาษาและหนังสือ, งานด้านจารีตประเพณี และงานด้านนาฏศิลป์ดุริยางค์
โดยในหลวง ร.9 ทรงอนุรักษ์และสืบทอดมรดกศิลปวัฒนธรรมไทยตลอดพระชนม์ชีพ ทำให้ได้รับการยกย่องให้เป็น "พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย"
มีภาพถ่ายเมื่อครั้งที่ในหลวง ร.9 เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโบราณสถานต่างๆ หรือทรงประกอบพิธีเปิดพิพิธภัณฑสถานต่างๆ
และเป็นที่รู้กันดีว่า ในหลวง ร.9 ทรงมีพระปรีชาญาณในด้านการสร้างสรรค์งานศิลปะ และได้รับการยกย่องว่าเป็น "อัครศิลปิน" มีหลักฐานเป็นภาพวาดฝีพระหัตถ์มากมาย พระองค์ทรงรับสั่งให้แก้ไขพระอุโบสถวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ให้มีขนาดเล็กลง ไม่ต้องใหญ่โตเกินความจำเป็น
ในหลวง ร.9 ยังทรงส่งเสริมทางด้านงานวรรณกรรม อาทิ ทรงสนับสนุนให้จัดพิมพ์หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงผลงานพระราชนิพนธ์ต่างๆ ทั้งเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
และยังมีประเพณีสำคัญ ที่ในหลวง ร.9 ทรงฟื้นฟูขึ้นมา อาทิ การจัดกระบวนพยุหยาตราชลมาคร พระราชพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พิธีไหว้ครู
และในหลวง ร.9 ยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชาวไทยและชาวต่างชาติ ในเรื่องของการดนตรี จนเป็นที่ประจักษ์ มีเพลงพระราชนิพนธ์มากมายหลายเพลง และทั้งหมดนี้ จึงทำให้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ถูกยกย่องว่าปเน พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย ของคนไทยอย่างแท้จริง