ทำไมไม่ควรร่วมม็อบ 14 ตุลาฯ

สำหรับเหตุผลชวนขบคิด ทำไมถึงไม่ควรเข้าร่วมการชุมนุม 14 ต.ค. นี้

1.ม็อบกลุ่มนี้นำโดยเยาวชนและคนที่อ้างว่าเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย มีลักษณะท้าทายและคุกคามคนที่เห็นต่างจากตน

ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ เพราะหลายคนบอกว่าเป็นเรื่องเล็ก อย่าให้ลีลามาบดบังเนื้อหา ทว่า สาเหตุที่เรื่องนี้สำคัญเพราะข้อเรียกร้องบางข้อของกลุ่มผู้นำม็อบ คือ การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของประเทศ ต้องอาศัยฉันทามติ และการสนับสนุนจากผู้คนจำนวนมาก แต่สิ่งที่แกนนำม็อบทำ กลับมุ่งใช้แต่อารมณ์ เอาแต่ใจ เอาแต่ได้ ด่าและคุกคามทุกคน ทุกฝ่ายที่ขัดใจ จึงกลายเป็นการลดแนวร่วม ผลักมิตรหรือคนกลางๆ ไปเป็นศัตรู

2.ข้อเรียกร้องของม็อบยังคงสับสน ย้อนแย้ง ไม่มีความชัดเจน และไม่มีรูปธรรมว่าต้องการจะให้เกิดอะไร

ยกตัวอย่าง เช่น ข้อเรียกร้องล่าสุดที่เปลี่ยนมาจากเดิม คือ ให้นายกฯลาออกทันที แล้วก็จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย แต่ถ้านายกฯลาออกทันที โดยรัฐธรรมนูญยังไม่ได้แก้ วิธีการเลือกนายกฯ ก็ยังเป็นไปตามรัฐธรรมนูญนี้ คือ ส.ว.ต้องมีสิทธิ์ร่วมโหวต แต่แกนนำม็อบเรียกร้องให้ตัดอำนาจ ส.ว. ส่วนนี้อีก และบุคคลที่มีโอกาสจะเป็นนายกฯได้ ก็คือบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอชื่อเอาไว้ตอนก่อนเลือกตั้งเท่านั้น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 ซึ่งก็เหลืออีกไม่กี่คน และเกือบทั้งหมดไม่น่าจะใช่บุคคล ที่ได้รับการยอมรับให้นำพาประเทศช่วงเปลี่่ยนผ่านตามที่ม็อบต้องการ

ขณะที่ข้อเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ชัดว่า จะแค่แก้ไข หรือยกร่างใหม่ทั้งฉบับ มีแต่ความต้องการจะแก้หมวด 1 หมวด 2 เท่านั้น แต่ไม่มีข้อเสนออื่นๆ เช่น ฝ่ายนิติบัญญัติจะมีสภาเดียวหรือ 2 สภา ที่มาของ ส.ส.ร. จะเป็นอย่างไร จึงจะสะท้อนความเป็นตัวแทนของประชาชนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง เพื่อจัดทำกติกาประเทศฉบับประชาชนที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ ซึ่งการสะท้อนความเป็นตัวแทนประชาชนเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งทางตรงเพียงอย่างเดียว หนำซ้ำการเลือกตั้งทางตรง อาจเป็นหลุมพรางของพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคนี้กุมเสียงข้างมากในระดับเขตเลือกตั้งอยู่ เป็นต้น

3.ผู้นำม็อบที่เปิดหน้า เปิดตัว กับกลุ่มการเมือง และพรรคการเมืองที่หลบอยู่ข้างหลังม็อบ และคอยกดปุ่ม ไขลานอยู่นั้น ไม่ได้มีความจริงใจกับประชาชนและประเทศชาติ

เห็นได้จากการพยายามสร้างแต่วาทกรรมสวยหรูเพื่อปลุกระดม แต่บิดเบือนความจริง เน้นเผยแพร่เฟกนิวส์ และตอกย้ำข้อมูลเท็จต่อๆ กันเป็นทอดๆ เพื่อให้ดูเหมือนเป็นข้อมูลจริง เช่น ม็อบ 19 กันยาฯ มากันเป็นแสน ทั้งๆ ที่มาหลักหมื่น สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส แต่คนปลุกระดมไม่เคยออกหน้า ให้มันจบที่รุ่นเรา แต่ปล่อยให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เสี่ยงไปจบที่เรือนจำ แต่พวกตัวเองเฉิดฉายในสภา ถอนประกันอานนท์-ไมค์ ทั้งๆ ที่ศาลไม่ได้สั่งถอน แต่ใช้หลักนิติธรรมประกอบหลักรัฐศาสตร์อย่างมาก นิติสงคราม แต่ไม่เคยพูดถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายของตน ฯลฯ

ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ไม่เคยมีโรคแมปประเทศให้ประชาชนได้มองเห็น มีแต่ความกระเหี้ยนกระหือรือ จะล้มสถาบัน ทั้งๆ ที่ประชาชนทั่วไปไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรกับการมีสถาบัน ขณะที่เรื่องงบประมาณหรือเรื่องอื่นๆ ที่หยิบเอามาอ้าง ก็สามารถตรวจสอบได้ผ่านระบบรัฐสภา เพราะถ้าตรวจสอบไม่ได้ คงเอาข้อมูลจากกรรมาธิการออกมาโพนทะนาไม่ได้

จากปัญหาทั้งหมดนี้ สุดท้ายก็กลายเป็นสถานการณ์ไล่ก๊วนลุงตู่ เพื่อเปิดทางให้กลุ่มใหม่ หรือแก๊งใหม่เข้ามาเสวยสุขเสพอำนาจ ตาม "สำนวนนายประชา ช้ำชอก ไทยโพสต์" หรือไม่ก็เข้ามาทดลองงาน หัดบริหารประเทศ กรณีได้คนรุ่นใหม่ไฟแรง แต่ไร้ประสบการณ์เพราะเมื่อไม่มีแผนงานโรดแมปอะไรชัดเจน ประชาชนตาดำๆ ก็ต้องเป็นหนูทดลองเหมือนเดิม

อยากจะเรียนว่ารัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจนี้ คนเขารู้กันมานานแล้ว เอาแค่ผมเองก็ทำข่าวนี้มาอย่างหนักช่วงปี 2560-2561 และชี้ให้เห็นว่า จะมีปัญหาตามมามากมาย ไม่รู้ว่าตอนนั้นคนกลุ่มนี้ไปอยู่ที่ไหน สะท้อนว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหว ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ไม่ได้รู้เร็วกว่าคนอื่น หรือรู้แล้วแต่ก็ใช้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้ามามีอำนาจ แต่เมื่อไม่ได้อำนาจ และทำท่าจะไม่ได้ไปอีกนาน ก็ต้องหาทางโค่นล้มอำนาจเก่า

คนไทยเขารู้ทันรัฐบาล รู้ทันการสืบทอดอำนาจ และวิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านคัดค้านกันมานานแล้ว เพียงแต่พวกคุณๆ ที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังม็อบทั้งหลาย ได้แสดงตัว แสดงความคิด แสดงวิสัยทัศน์ ให้เป็นความหวังของคนไทยบ้างหรือยัง?