เปิดใจ อแมนด้า MUT2020 เตรียมพร้อมคว้ามง 3 ให้คนไทย
หลังจากที่สาวงามลูกครึ่งไทย-แคนาดา อแมนด้า ชาลิสา ได้คว้ามงกุฏมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์2020ไปครองก็ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงความรู้สึกและความพร้อมในการไปสู่เวทีระดับโลกอย่างมิสยูนิเวิร์ส ว่าเธอมั่นใจในความเป็นตัวของตัวเองและมีความพร้อมที่จะไปชิงมงกุฏที่ 3 มาฝากคนไทย
ตลอดระยะเวลาของการประกวด อแมนด้า ชาลิสา เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่มีแฟนนางงามคอยเชียร์และเธอก็มีความมุ่งมั่นในการเดินสายประกวดนางงามกว่าจะมาคว้ามงกุฏใหญ่บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งอแมนด้าบอกว่าที่ผ่านก็กดดันตัวเองแต่ก็พยายามจนมาถึงวันนี้และคิดว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้ว ตอนนี้เมื่อแบกความหวังของคนไทยในการไปคว้ามงที่ 3 ให้ประเทศก็ขอยืนยันว่ามีความพร้อมในการเตรียมตัวไปชิงมง 3 ให้คนไทยแล้ว
ณ วันที่มาสายนางงาม เริ่มต้นได้อย่างไร"เวทีแรกคือมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 คือเพิ่งเรียนจบมากลับมาไทยและไปนั่งร้านอาหาร มีพี่คนหนึ่งมาเห็นเราและมาถามว่าอยากลองไปประกวดมั้ย มิสไทยแลนด์เวิลด์กำลังจะมีประกวดนะ ก็เลยลองไปสมัครดู แล้วพอได้ลองประกวดก็รู้สึกติดใจกับการประกวดนางงาม เพราะด้ารู้สึกว่าเป็นชาเลนจ์ที่เราอยากสู้กับตัวเอง และเอาชนะตัวเองให้ได้"
แต่ที่ผ่านมาเราก็ยังไม่เคยถึงมงใหญ่เลย"ที่เมืองไทยยังไม่มี มีแต่ที่เมืองนอก ได้ มิสทัวริซึมเมโทรโพลิตันอินเตอร์เนชันแนล 2016 มาค่ะ"
ครั้งนี้กับเวที Miss Universe Thailand เราเป็นตัวเก็ง ที่ผ่านมากดดันมั้ย?"ถ้าจะบอกว่าไม่กดดันเลย ก็คงไม่ใช่ มันก็ยากนะคะ คืออาจจะไม่ได้กดดันจากรอบข้าง แต่มันกดดันจากตัวเอง เพราะเราอยากทำให้ดีที่สุด แต่ทุกครั้งที่เป็น The End Of the day ด้าต้องกลับมาหวนคิดว่า เออ วันนี้เราทำดีที่สุดแล้วนะ ต้องบอกกับตัวเองว่าเราทำดีแล้ว เรากดดันตัวเองเยอะไม่ได้ เพราะเราจะไม่มีความสุขเลย"
ด้าสลัดความกดดันยังไง เพราะแฟนนางงามชอบบอกว่ายังเห็นอยู่ว่าด้ามีความกดดันที่แสดงออกมาทางแววตา"ที่ผ่านมาในรอบออดิชั่น ด้ากดดันมาก ส่วนหนึ่งเพราะคุณพ่อป่วยเข้าไอซียู คุณพ่อเป็นโรคกระดูกข้อเสื่อม พ่ออายุเกือบจะ 70 แล้ว ต้องไปเปลี่ยนสะโพก แล้วพอเปลี่ยนแล้วเกิดมีอาการเส้นเลือดตีบในขา ก็เลยต้องเข้าไอซียู วันนั้นเป็นวันที่เรามีความกังวล แต่พอสุดท้ายทุกอย่างผ่านไปด้วยดี คุณพ่อก็ออกจากไอซียูแล้วด้วย จากนั้นในวันเก็บตัวทุกๆ วัน ด้าเริ่มเป็นตัวของตัวเอง สนุกกับมัน"
มองยังไงที่หลายคนชอบบอกว่า อแมนด้า ไม่ไทยพอที่จะเป็นตัวแทนประเทศไปประกวด มิสยูนิเวิร์ส"นี่ยังไม่ไทยพออีกเหรอคะ (ยิ้ม) ด้าเกิดและโตที่เมืองไทย ที่ภูเก็ต แม่เป็นคนไทย ด้าเป็นคนไทยคนหนึ่ง ถ้าจะบอกว่าด้าไม่ใช่คนไทย ด้าว่ามันรู้สึกว่าไม่โอเคนะคะ แล้วอย่างนั้นด้าอยู่ใน category ไหนล่ะ ถ้าด้าอยู่ไทยแล้วไม่ใช่คนไทย แต่พอด้าไปอยู่เมืองนอกเขาก็บอกเป็นเอเชีย แล้วตัวด้าจะต้องยืนตรงไหน ต้องเปิดใจยอมรับด้วยค่ะว่าด้าเป็นคนไทย เกิดและโตเมืองไทย และแม่ก็เป็นคนไทย"
เตรียมตัวยังไงเพื่อไปเวทีมิสยูนิเวิร์ส"เราต้องเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้าน ถ้าเราอยู่ในจุดไทยแลนด์ ด้าเชื่อว่าทีมไทยแลนด์มีทีมซัพพอร์ตที่ดี ทั้งประเทศต้องช่วยกันอยู่แล้วไม่ว่าด้านไหนๆ เพราะทุกคนมีความหวังที่จะได้มงที่สาม คนไทยทุกคนเลย ด้าคิดว่าตัวด้าเองพร้อมที่สุดกับการเป็นตัวเอง เราจะเข้าไปและก็เป็นตัวเรา เราจะใส่ให้มากที่สุด เต็มที่ในทุกวัน ด้าเป็นคนที่กล้าพูด มีอะไรก็จะพูด ด้าไม่กลัวคน มีอะไรก็เข้าหาคนได้เลย และด้าจะพยายามทำให้ตัวเองน่าสนใจเมื่อเราไปอยู่ตรงนั้น".
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:ไทยรัฐออนไลน์