ผลการวิจัยล่าสุดมหาวิทยาลัยแพทย์เกียวโตของญี่ปุ่น พบว่า โคโรนาไวรัส โควิด-19สามารถมีชีวิตอยู่บนผิวหนังได้นาน 9 ชั่วโมง หรือนานกว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ถึง 4 เท่า โดยคณะนักวิจัยได้นำตัวอย่างโคโรนาไวรัส กับไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอกับตัวอย่างผิวหนังมนุษย์ ที่ได้จากการชันสูตรศพเมื่อ 24 ชั่วโมงก่อนหน้า และพบว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ อยู่ได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ขณะที่โคโรนาไวรัสอยู่ได้นานถึง 9ชั่วโมง แต่เมื่อทำการทดสอบกับตัวอย่างจากเมือกของระบบทางเดินหายใจส่วนบน พบว่า โคโรนาไวรัสมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 11 ชั่วโมง ส่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ อยู่ได้ 1.69 ชั่วโมง
การวิจัยยังพบว่า ไวรัสทั้งสองชนิดตายภายในเวลา 15 วินาที หลังจากโดนน้ำยาล้างมือที่ผสมแอลกอฮอล์ 80% ซึ่งนักวิจัยระบุว่า การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าโคโรนาไวรัสมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดต่อมากกว่าไข้หวัดใหญ่ และแสดงให้เห็นความสำคัญของการล้างมือ
การวิจัยที่ดำเนินการในห้องปฏิบัติการทดลองนี้ ได้ใช้ผิวหนังของศพที่เอาไว้สำหรับนำไปใช้ในการปลูกถ่ายผิวหนัง โดยไม่ใช้อาสาสมัครเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ และการพบระยะเวลาการอยู่รอดของไวรัสบนผิวหนัง สามารถช่วยพัฒนาการป้องกันการติดเชื้อผ่านการสัมผัสได้ และงานวิจัยนี้ ถูกเผยแพร่ในวารสารโรคติดเชื้อที่มีอาการ ( Clinical Infectious Diseases)
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของประเทศต่างๆ ได้ออกคำแนะนำแบบเดียวกันว่า ให้ใช้น้ำยาหรือเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 60-90% หรือล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ และน้ำ อย่างน้อย 20 วินาที