svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นิพนธ์"แจงยิบปัดข้อหาทุจริต-ยันรักษาผลประโยชน์ชาติ

07 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นิพนธ์ บุญญามณี" แจงเหตุชะลอเบิกจ่ายเงินซื้อรถซ่อมทางอเนกประสงค์ให้เอกชน เหตุมีการร้องเรียนทุจริต ปลอมแปลงเอกสาร ย้ำสัญญาเกิดก่อนเข้ารับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ยันพร้อมชี้แจงทุกประเด็นหลังมีข่าว ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ลั่นทุกอย่างทำเพื่อป้องผลประโยชน์ชาติ

(7 ตุลาคม 2563) นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ไม่อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณให้บริษัทเอกชน 50.8 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดมีข่าวจากสื่อบางแขนงอ้าง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้วนั้น

โดยส่วนตัวขออธิบายเรื่องเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 10 เม.ย.56 ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา มีการประกาศจัดหารถซ่อมทาง วงเงิน 52 ล้านบาท และในการประมูลดังกล่าว มีผู้ยื่นประมูล 2 ราย ได้แก่ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ยื่นประมูล 50,850,000 บาท และบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด ยื่นประมูล 50,900,000 บาท ซึ่งผลปรากฏว่า บริษัท พลวิศว์ฯ เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยราคาต่ำกว่า 50,000 บาท

ทั้งนี้ ต่อมาวันที่ 31 พ.ค. 2556 นายก อบจ.สงขลา ในขณะนั้น ได้ลงนามในสัญญาซื้อรถซ่อมทางเอนกประสงค์ กับ บริษัท พลวิศว์ฯ โดยกำหนดส่งมอบรถภายใน 180 วัน และวันที่ 7 มิ.ย. 2556 หลังจากลงนามสัญญาซื้อรถซ่อมทางเอนกประสงค์ได้เพียง 7 วัน นายกอบจ.สงขลา ขณะนั้น ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง

วันที่ 4 ส.ค. 2556 มีการจัดการเลือกตั้ง นายก อบจ.สงขลา ขึ้นใหม่ ผลปรากฏว่าตนได้รับการเลือกตั้ง และเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 28 ส.ค. 2556 โดยในช่วงที่ผ่านมาได้รับข้อมูลร้องเรียนว่า ทั้ง 2 บริษัท มีการทุจริตในลักษณะฮั้วประมูล และต่อมายังตรวจสอบได้ว่า บริษัททั้งสองมีการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อยื่นประมูลงานอีกด้วย

ทั้งนี้ ในวันที่ 8 ต.ค. 2556 บริษัท พลวิศว์ฯ ส่งมอบรถซ่อมทางเอนกประสงค์ตามสัญญากับ อบจ.สงขลา โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ อบจ.สงขลา ทำการทดสอบและตรวจรับรถซ่อมทางเอนกประสงค์ในวันที่ 9 ต.ค. 2556 ซึ่งการทดสอบนั้น เป็นการทดสอบระบบต่างๆ ของรถว่าใช้งานได้จริงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และใช้ระยะเวลากว่า 90 วัน กองช่างจึงได้รายงานผลการทดสอบ ในวันที่ 9 ม.ค. 2557

วันที่ 21 พ.ย. 2556 ระหว่างที่ผลการทดสอบตรวจรับรถยังไม่เสร็จสิ้น บริษัท ไทยวินเนอร์ ทรัค จำกัด ได้มีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 15 ป.ป.ช และตนในฐานะนายก อบจ.สงขลา ถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อ ระบุว่ามีการฮั้วประมูลและล็อกสเปค

ทั้งนี้ ทำให้ตนที่เพิ่งรับตำแหน่งนายกอบจ.สงขลา และไม่ทราบถึงรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมทางเอนกประสงค์ดังกล่าวมาก่อน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าการจัดซื้อรถดังกล่าวที่ผ่านมานั้น ถูกต้องตามระเบียบและตามข้อร้องเรียนหรือไม่ เพื่อไม่ให้ทางราชการเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง อบจ.สงขลา ก็ได้มีการจัดซื้อรถลักษณะเดียวกันไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 1 คัน และครั้งนี้เป็นการจัดซื้ออีกเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 ปี อีกจำนวน 2 คัน รวมเป็น 4 คัน

ส่วนวันที่ 7 ม.ค. 2557 รองผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มีหนังสือถึงตนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ บริษัท ไทยวินเนอร์ฯ ได้ทำการร้องเรียน ส่วนตัวจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และตามที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายร้องเรียน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อราชการ

ต่อมาวันที่ 5 มิ.ย. 2557 ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลามีหนังสือถึง อบจ.สงขลา ขอให้จ่ายเงินให้แก่ บริษัท พลวิศว์ฯ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่อง ที่มีผู้ร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใสในการประกวดราคาซื้อรถครั้งนี้ด้วย โดยตนพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการยังไม่เสร็จสิ้น ก็ควรรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

ทั้งนี้ เพราะหากอนุมัติให้จ่ายเงินไปแล้ว ภายหลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นว่าการจัดซื้อไม่ชอบ และการประมูลจัดซื้อตกเป็นโมฆะ จะทำให้รัฐเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก ยากที่จะเรียกเงินคืน เพราะบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น อีกทั้ง หากอนุมัติให้จ่ายเงินไป ตนอาจถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาได้

นอกจากนี้ วันที่ 25 ก.ค. 2557 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานผลการสอบข้อเท็จจริงว่า การประมูลจัดซื้อไม่เป็นไปตามคุณลักษณะเฉพาะ ตามที่ อบจ.สงขลากำหนด คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีความเห็นว่า การประกวดราคาและการจัดซื้อรถมีเจตนาไม่สุจริต เป็นการสมยอมกันในการเสนอราคา ทำให้การแข่งขันกันอย่างไม่เป็นธรรม ผลก็คือการประกวดราคาและการจัดซื้อรถจึงตกเป็นโมฆะ และ อบจ.สงขลา ได้นำผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานให้ศาลปกครองพิจารณาแล้ว อีกทั้ง อบจ.สงขลา ได้นำผลรายงานการสอบสวนดังกล่าวให้จังหวัดสงขลา ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 15 และ ป.ปช ทราบแล้วด้วย

นอกจากนี้ ยังปรากฎหลักฐานจากต่างประเทศหลายแห่ง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ของ ออสเตรเลีย หลักฐานจากประเทศนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย เป็นต้น ที่รับรองไว้แล้วว่า บริษัทคู่เทียบเอกชนในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ดังกล่าว ไม่มีตัวตนอยู่จริง และจากกรณีปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว อบจ.สงขลา ก็ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองสงขลาแล้วด้วย

logoline