svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บิ๊กบี้"ย้ำโอกาสปฏิวัติเป็นศูนย์ เตือนลดเงื่อนไขให้ติดลบ

06 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ผบ.ทบ." ยันการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ชี้โอกาส "ปฏิวัติรัฐประหาร" เป็นศูนย์เตือนลดเงื่อนไขให้ติดลบบอกตอนนี้ประเทศเราดีที่สุดยกคำสอน "สมเด็จโตฯ"ตอกกลับ10 ข้อเรียกร้องควรมองตนเองก่อน.

(6 ตุลาคม  2563) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงจุดยืนของกองทัพต่อการเมืองว่า การเมืองจะต้องแก้ด้วยการเมือง หากบอกว่ากองทัพกับรัฐบาลก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะกองทัพปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล 

"ผมเป็นข้าราชการประจำ ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง เพราะฉะนั้นควรปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารสูงสุด" พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. 3 ปี ให้ความมั่นใจและคำมั่นสัญญาว่าจะไม่เกิดการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ บอกว่า คำถามนี้ถูกถามมาทุก ผบ. และทุก ผบ. ก็ตอบไปหมด ซึ่งโอกาสของการทำเรื่องพวกนี้ทุกอย่างเป็นศูนย์ แต่บนพื้นฐานก็อย่าให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสร้างเงื่อนไขและสร้างปัญหาที่รุนแรงที่กระทบต่อความเดือดร้อน ทั้งนี้ ตามที่ ผบ.ทหารสูงสุด ตอบไปแล้วว่าทหารไม่มีความคิดเรื่องพวกนี้ ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ ช่วยกันขจัดเงื่อนไขต่างๆให้ติดลบ ไม่ใช่แค่ศูนย์ โดยขจัดเงื่อนไขเหล่านี้ให้หมดไปจากประเทศไทย

ถามย้ำว่า แสดงว่าให้คำมั่นจะไม่เกิดขึ้น หรือแล้วแต่สถานการณ์จะนำพาไป พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า โอกาสไม่มีอยู่แล้ว เชื่อว่าสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้เป็นประเทศที่ดีที่สุด เป็นประเทศที่มีเสรีมากที่สุด เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด ใครก็อยากมาประเทศไทย 

ส่วนเงื่อนไขที่รออยู่เบื้องหน้า ทั้งเรื่องการชุมนุมและการหมิ่นสถาบันนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพ ใครที่บอกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย คืออะไรที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ตอนนี้ประเทศไทยก็เป็นประชาธิปไตย และทุกคนมีเสรีภาพหมด แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นก็มีอยู่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เเละต้องมี 2 เรื่องคือ เรื่องสิทธิ ที่ต้องไม่ก้าวล่วงสิทธิของคนอื่น และต้องมีความรับผิดชอบต่อเสรีภาพทุกการกระทำ ถ้ามีการก้าวล่วงหรือทำผิดกฎหมาย 



เมื่อถามว่าข้อเรียกร้องของนักศึกษาเป็นการก้าวล่วงสถาบันหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็เหมือนกับการปฏิรูปของกองทัพบก สมัย ผบ.อภิรัชต์ อะไรที่จะปฏิรูปได้เราก็รับ แต่การปฏิรูปก็คือการแก้ไขและปรับปรุง เพราะฉะนั้นทุกคน ควรกลับไปมองตนเอง และปฏิรูปตัวเองก่อน เหมือนกับสมเด็จโต ที่ให้มองกระจกหกด้าน ไม่ได้มองแต่เรื่องตัวเอง ว่าตัวเองดีตัวเองถูกต้องทุกอย่าง ต้องมองคนอื่นด้วย ต้องดูกระจกด้านอื่นด้วย จริงๆตนอยากให้ทุกคนทุกคนไปดูตัวเองก่อน ว่าตัวเองมีความถูกต้องสมบูรณ์แล้วหรือยัง ก่อนที่จะไปบอกให้คนอื่นทำอย่างนั้นอย่างนี้

ถามย้ำว่า ได้ให้นโยบายการปกป้องสถาบันอย่างไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ในหัวตนมีอยู่ 4 อย่าง คือสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน  ตนจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาความมั่นคงของ 4 อย่างนี้ แต่ไม่บอกว่าทำทุกอย่างคือทำอย่างไร โดนเป็นไปตามอุดมการณ์ของกองทัพบกและอุดมการณ์ของตนตั้งแต่เป็นทหาร

"ผมเข้าใจ สื่อพยายามนั่งคิด นอนคิด ทานข้าวก็คิด แต่คำถามเหล่านี้บางทีจะเครียด เขาใช้งานเราเยอะเกินไป มีเวลาต้องไปออกกำลังกาย สื่อสายทหารก็ออกกำลังกายกับทหาร กินอาหารที่ดี นอนหลับพักผ่อน รักษาสุขภาพ จะได้ทำข่าวได้นานๆ บางเรื่องปล่อยวางบ้าง ให้ไปไหว้พระสวดมนต์ เข้าวัดบ้างก็ได้ ผมก็มีแค่นี้ เย็นก็ออกกำลังกาย อาบน้ำไหว้พระ สวดมนต์ ผมก็นอนหลับสบาย" พล.อ.ณรงค์พันธ์  กล่าว



สำหรับการชุมนุมก็คือหน้าที่ของตำรวจรับผิดชอบตามกฎหมายปกติ แต่พอถูกถามว่าจะเกิดการจลาจลขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ถามกลับว่า เกิดจลาจลขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อประชาชนคนไทยไม่ได้มีความคิดรุนแรง โดยเฉพาะในสมัยใหม่นี้ ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน

เมื่อถามว่า ถ้ามีความรุนแรง การทำรัฐประหารสามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า รุนแรงอย่างไร ต่างฝ่ายต่างบอกว่าไม่ใช้ความรุนแรง และที่ผ่านมาตำรวจก็ไม่เคยพกอะไรเข้าไป ที่สำคัญต้องเรียนรู้ว่าความรุนแรงไม่มีประโยชน์สำหรับทุกสังคมในโลก

เมื่อถามย้ำว่าการทำรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ พลเอก ณรงค์พันธ์ นิ่งและปฏิเสธตอบ ก่อนฝากให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบก

logoline