svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เคาะ"สมพงษ์"หวนคืนหัวหน้าเพื่อไทย

01 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตามคาด "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" คุมเพื่อไทย ขณะที่ "ประเสริฐ จันทรรวงทอง" นั่งเลขาธิการฯ ด้าน "อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด" ขึ้นรองหัวหน้า ส่วน "อรุณี กาสยานนท์" อดีตรองโฆษกทษช. คุมโทรโข่งพท. พบการลงคะแนนสมาชิกทำบัตรเสียอื้อ

(1 ตุลาคม 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้การประชุมใหญ่วิสามัญพรรค โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกบุคคลจะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แทนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ซึ่งได้ลาออกไปก่อนหน้านี้ หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแกนนำพรรคอีกหลายคนต่างทยอยลาออกไป อาทิคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรค ตามด้วยกรรมการบริหารพรรค และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคบางส่วน อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และนายโภคิน พลกุล

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการลาออกของนายสมพงษ์ ส่งผลทำให้กรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งชุด โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิลรักษาการหัวหน้าพรรค ได้กำหนดวันนี้ (1ต.ค.) ให้มีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อเลือกตำแหน่งต่างๆ ซึ่งองค์ประกอบที่จะเข้าร่วมประชุมวันนี้ จะมีคณะกรรมการบริหารพรรค 26 คน ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 124 คน หัวหน้าสาขาพรรค 4 สาขา ส.ส.ของพรรค ทั้งหมด และ ตัวแทนสมาชิกซึ่งจะเป็นอดีตรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.โดยองค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 250 คน

เคาะ"สมพงษ์"หวนคืนหัวหน้าเพื่อไทย




สำหรับบรรยากาศก่อนการประชุมถือว่าเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้บริหารพรรค แกนนำพรรค ส.ส. ของพรรค เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายเสนาะ เทียนทอง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายสมพงษ์ คุณหญิงสุดารัตน์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายสุทิน คลังแสง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นายภูมิธรรม เวชชยชัย นายวิโรจน์ เปาอินทร์ นายกิตติรัตน์ และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รวมองค์ประชุมรวมทั้งสิ้น 340 คน

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์กันว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรค จะยังคงเป็นนายสมพงษ์ เช่นเดิม ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค คาดเป็น น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายสุทิน ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขระที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค คาดว่าจะเป็นนายประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา และตำแหน่งโฆษกพรรค คาดเป็นนางอรุณี กาสยานนท์อดีตรองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ

เคาะ"สมพงษ์"หวนคืนหัวหน้าเพื่อไทย







ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับผลการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยที่ประชุมมีมติเป็นฉันท์ เลือก นายสมพงษ์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนเสียง 376 คะแนน จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 413 คน ส่วนเลขาธิการพรรค คือ นายประเสริฐ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ เป็นรองหัวหน้าพรรค ซึ่งมีทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ นายชูศักดิ์ นายเกรียง กัลป์ตินันต์

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร นายพิชัย นริพทะพันธ์ นายสุทิน นายไชยา พรมมา พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทร์พิงค์ และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส่วนรองเลขาธิการพรรรค 5 คน ประกอบด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม นายจิรวัฒน์ ศิริพาณิช นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล นายคุณากร ปรีชาชนะชัย และนายนพ ชีวานันท์ ส่วนเหรัญญิก คือ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวณิชย์ ส่วน นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนพรรค

ด้าน น.ส.อรุณี เป็นโฆษกพรรค ส่วนกรรมการบริหาร อีก 4 คน ประกอบด้วย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ นายสรวงศ์ เทียนทอง นายองอาจ วงศ์ประยูร และนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า หลังจากได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว จะมีการตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนพรรค แยกย่อยออกเป็นแต่ละด้านอีก 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านงานสภาผู้แทนราษฎร ด้านข่าวกรอง และด้านการบริหารพื้นที่

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบว่ามีบัตรเสียจำนวนมากในการลงคะแนนเพื่อเลือกบุคคลให้เข้ามาดำรงแต่ละตำแหน่งภายในพรรค อาทิ การลงคะแนนเพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค พบบัตรเสียจำนวน 5 ใบ เลขาธิการพรรค พบมีบัตรเสีย 37 ใบ เหรัญญิกพรรค 9 ใบ นายทะเบียนสมาชิกพรรค พบบัตรเสีย 20 ใบ โฆษกพรรค พบบัตรเสีย 24 ใบ และกรรมการพรรค พบบัตรเสีย 35 ใบ ขณะที่การลงคะแนนหัวหน้าพรรค พบบัตรเสีย 7 ใบ


เคาะ"สมพงษ์"หวนคืนหัวหน้าเพื่อไทย

ขณะที่ นายสมพงษ์ กล่าวภายหลังรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ว่า ส่วนตัวขอบคุณสมาชิกที่ได้ร่วมลงคะแนน ให้ความไว้วางใจ เลือกกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ซึ่งสถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ ตกอยู่ภายใต้ภาวะวิกฤติ ทั้งทางการเมือง และเศรษฐกิจ และในฐานะพรรคการเมือง ที่ได้ต่อสู้เพื่อประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มีความจำเป็นต้องปรับตัว ปรับโครงสร้างการบริหารของพรรค ให้สามารถแบกรับภารกิจ เพื่อเป็นที่หวังพึ่งได้ของประชาชน

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ภารกิจสำคัญอย่างแรก คือ มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยพรรคยึดมั่นในจุดยืนเช่นนี้มาตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยืนยันจะจับมือร่วมกับทุกเครือข่าย ในการเดินหน้าเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดกติกายุติธรรม และเป็นประชาธิปไตย ให้มากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในทุกด้าน อันจะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

ส่วนภารกิจที่สอง คือ มุ่งมั่นที่จะแบ่งเบาความทุกข์ยากของประชาชน โดยเฉพาะวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ ที่เริ่มส่งผลรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตประชาชนจำนวนมาก ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทั้งคนรายได้น้อย คนตกงาน คนที่แม้ยังอยู่ในระบบแรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มวิสาหกิจทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมไปถึงเกษตรกรทุกกลุ่มกำลังไปไม่ไหว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พรรคจะทำต่อจากนี้ คือ การระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน ทั้งภายในและภายนอกพรรค เพื่อร่วมกันสร้างและผลักดันนโยบาย เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม เช่นที่พรรคได้เคยทำสำเร็จมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย ที่ได้สร้างความหวัง สร้างอนาคตให้ประชาชนได้อย่างชัดเจนที่สุด

สำหรับภารกิจที่สาม คือ กระชับความสัมพันธ์ในหมู่สมาชิกและประชาชน รวมทั้งกลุ่มประชาสังคมทุกเครือข่าย ให้เกิดการเรียนรู้ ร่วมมือกันให้แน่นแฟ้น สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยร่วมกัน อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนและภารกิจท้ายสุด คือ รวบรวมและนำเทคโนโลยี มาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการถ่ายทอดหรือสื่อสารไปยังประชาชนและ ส.ส. เพื่อรับรู้ปัญหา และสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ของประชาชน ในการแก้ปัญหาให้ดียิ่งๆ ขึ้น

"ผมขอขอบคุณผู้ใหญ่ของพรรคและสมาชิกพรรคทุกท่าน รวมทั้งผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ที่ได้ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในการปรับองค์กร เปลี่ยนโครงสร้างการทำงาน ให้โอกาสพรรคสามารถระดมทรัพยากรบุคคลของพรรคได้อย่างเต็มที่ เพื่อมาช่วยกันทำงานเป็นการผนึกกำลัง "จากรุ่น สู่รุ่น"ระหว่างความรู้ และประสบการณ์ของ "รุ่นพี่" กับความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆ และความมุ่งมั่นที่เปี่ยมด้วยพลังของ "รุ่นน้องๆ" เพื่อให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเราสองรุ่น" จะจับมือกันให้แน่น เพื่อร่วม "ถักทอ" ความหวัง ความฝัน ที่จะเห็นพี่น้องประชาชนของเรา ได้กินอิ่ม นอนหลับ ยิ้มได้ อย่างมีความสุข กับชีวิตที่ดีขึ้นและนั่นคือ อุดมการณ์สูงสุดของพวกเรา" นายสมพงษ์ กล่าว

logoline