โพลชี้ม็อบ19กันยาฯซ้ำเติมวิกฤติชาติ

สำนักสำรวจความคิดเห็นของประชาชน "ซูเปอร์โพล" สัปดาห์นี้ ต้องบอกว่า ทันสมัย เข้ากับสถานการณ์การเมืองบ้านเราเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการสำรวจทัศนคติของพี่น้องประชาชนคนไทย เกี่ยวกับการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ร่วมกับกลุ่มประชาชนปลดแอก มวลชนคนเสื้อแดง และอีกหลากหลายคณะ เมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา

หัวข้อการสำรวจต้องบอกว่าร้อนแรง ตรงไปตรงมาจริงๆ คือ "ม็อบ 19 กันยายน กับ การซ้ำเติม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ" ดำเนินการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,119 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 2125 ก.ย.ที่ผ่านมา

ผลสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 89.9 มองว่า ม็อบ 19 กันยายน ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง โดยมีเพียงร้อยละ 10.1 ที่มองว่าม็อบไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง

นอกจากนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 91.2 ยังระบุว่า ม็อบ 19 กันยายน เป็นการซ้ำเติมวิกฤติชาติ และซ้ำเติมวิกฤติความเดือดร้อนของประชาชน ในขณะที่ร้อยละ 8.8 บอกว่าไม่ซ้ำเติม นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 92.0 ยังบอกว่า ม็อบและกลุ่มผู้สนับสนุนกำลังสร้างความแตกแยกและทำลายรากฐานของประเทศตนเอง ในขณะที่ร้อยละ 8.0 มองว่าไม่สร้างความแตกแยก

สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหานั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 92.0 เสนอให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย ใครผิดว่าไปตามผิด ทั้งแกนนำม็อบและกลุ่มผู้สนับสนุน ไม่ให้มีการลอกเลียนแบบ หรือกระทำผิดซ้ำ นอกจากนั้น กลุ่มตัวอยางร้อยละ 91.2 เรียกร้องให้ลงโทษสูงสุด "ยุบพรรคการเมือง" ที่มีนักการเมืองหนุนหลังการชุมนุมล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ

ที่สำคัญยังมีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 96.1 เรียกร้องไปยังกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยวลีที่ว่า "ไม่รักแต่อย่าทำลาย" ความรักความสามัคคีของคนในชาติ / ห้ามล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ / เพราะเป็นเรื่องจำเป็นต่อความสงบสุขของบ้านเมือง

ผู้อำนวยการซูเปอร์โพล อาจารย์นพดล กรรณิกา กล่าวสรุปว่า ม็อบ 19 กันยาฯ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วไป เพราะเป็นการชุมนุมที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการชุมนุม ตรงกันข้ามประชาชนทั่วไปกลับเล็งเห็นว่าการชุมนุมกำลังนำไปสู่ความแตกแยก ทำลายความรักความสามัคคีของคนในชาติ กำลังล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติที่เป็นเรื่องจำเป็นต่อความสงบสุขของบ้านเมือง

ถ้าบ้านเมืองไม่สงบสุขมั่นคง การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทุกกลุ่มผลประโยชน์จำเป็นต้องตัดไฟแต่ต้นลม ส่งตัวแทนเข้าเจรจาหาข้อยุติอย่างเร่งด่วน เพื่อสกัดกั้นความรุนแรงบานปลายที่อาจเกิดขึ้นจนยากเกินเยียวยาได้