(25 กันยายน 2563) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุผลที่ลงมติเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ก่อนลงมติในวาระรับหลักการนั้น เนื่องจากต้องการให้ ส.ว. ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการ เพราะการเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ส.ว.ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม อย่างไรก็ตาม รวมถึงก่อนหน้านี้ที่มีการตั้งกมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน ส.ว.ก็ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม ดังนั้น การเปิดโอกาสให้ ส.ว.เข้าร่วมในกมธ.ศึกษาก่อนรับหลักการ เพราะเสียงของ ส.ว.มีส่วนสำคัญในการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องได้รับเสียงสนับสนุน 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง และมองว่าระยะเวลา 30 วัน ไม่มากเกินไป รวมถึงในข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 121 วรรค 3 ก็ยังมีการกำหนดกลไกให้มีการตั้งกมธ.ร่วมเพื่อศึกษาได้
"กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสำคัญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่จะต้องใช้ความรอบครอบในการกลั่นกรอง ต้องรับฟังเสียงของทุกฝ่าย ดังนั้น ระยะเวลา 30 วัน ที่ให้กมธ.ไปศึกษา ถือว่าไม่นานเกินไป และการให้ ส.ว.เข้ามามีส่วนร่วมในส่วนของการตั้งกมธ.ขึ้นพิจารณา ตามข้อบังคับรัฐสภาข้อ 121 ถือว่าเป็นกลไกของรัฐสภาในการหาทางออกร่วมกัน และในเมื่อต้องการให้ ส.ว.เขาเข้ามาสนับสนุน เราก็ต้องให้เขาได้เข้ามีส่วนร่วมด้วย เพราะหากไม่ให้มีส่วนร่วม แล้วให้เขามาโหวตว่ารับหรือไม่รับ จะเป็นการไม่แฟร์ กับเขา" นายอัครเดช กล่าว