ผู้ว่า รฟม.แจงปมล็อกสเปคสายสีส้ม

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงกรณีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ยืนยันว่า รฟม.มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์เพิ่มเติมกลางคัน โดยยึดตามมาตรา 35 และมาตรา 38 ของพรบ.การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โดยไม่จำเป็นจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเพิ่มเติมในทีโออาร์ดังกล่าว และไม่จำเป็นต้องเสนอบอร์ดรฟม.เห็นชอบด้วย

ส่วนข้อซักถามว่าการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์เป็นการล็อกสเปคให้ไอทีดี หลังมีการยื่นหนังสือขอเปลี่ยนแปลงเงื่นไขทีโออาร์โดยควบรวมเทคนิคควบคู่ราคาหรือไม่นั้น นายภคพงศ์ กล่าวว่า กรณีที่ไอทีดียื่นหนังสือขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์อยู่ในช่วงเวลาที่รฟม.เปิดให้ยื่นรับฟังความเห็นจากผู้ซื้อซองทั้ง 10 ราย ทันกำหนดระยะเวลา ซึ่งในช่วงที่มีการเปิดรับฟังความเห็นการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ก็มีความเห็นทั้งสองฝ่าย คือเห็นด้วยให้ใช้ราคากับเทคนิคควบคู่กัน กับให้ใช้ราคาพิจารณาอย่างเดียว แต่ที่รฟม.ไม่ได้ทำเงื่อนไขโดยใช้เทคนิคพิจารณาควบคู่กับราคา เพราะเวลากระชั้นชิด จึงมีการเปิดให้ยื่นซื้อซองไปก่อน ส่วนที่บีทีเอสร้องให้กลับมาใช้เกณฑ์เดิม คือราคาอย่างเดียว เป็นการยื่นให้พิจารณาหลังหมดระยะเวลาเปิดรับคำถามไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้ซักถามอย่างหนักถึงเกณฑ์การพิจารณาคะแนนทางด้านราคาและเทคนิค โดยในส่วนของเทคนิคจะมีการนำประสบการณ์ของงานทำอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยามาพิจารณาการให้คะแนนเป็นพิเศษร่วมด้วยหรือไม่ นายภคพงศ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องใช้เกณฑ์เทคนิคมาให้คะแนน เพราะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีความซับซ้อนมีเส้นทางผ่านชุมชนพื้นที่อ่อนไหวในเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน ต้องก่อสร้างอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้น ผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านการทำอุโมงค์และเป็นผู้ประกอบการคนไทยจะได้รับการพิจารณาทางด้านคะแนนเป็นพิเศษ แต่ในทีโออาร์ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะต้องมีประสบการณ์ทำอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ขอแค่มีประสบการณ์ทำอุโมงค์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น อุโมงค์น้ำเสียของ กทม. ก็จะพิจารณาเหมือนกัน ซึ่งมีอยู่ 4-5 รายในประเทศไทย ส่วนที่ทำอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยามี 2 รายเท่านั้น แต่ทางผู้ซื้อซองก็สามารถที่จะไปหาพันธมิตรร่วมทุนงานโยธาที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้เข้ามาร่วมทุน เพราะได้เปิดให้ขยายเวลายื่นซองข้อเสนอในวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งมีเวลามากกว่า 70 วัน

อย่างไรก็ตามมีการสอบถามว่า มีความเป็นไปได้ที่ รฟม.จะกำหนดเงื่อนไขทางด้านเทคนิคมาให้คะแนนในเรื่องประสบการณ์การทำอุโมงค์ลอดแม่นำเจ้าพระยาหรือไม่ นายภคพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดรายละเอียดย่อยของเกณฑ์การให้คะแนนทางด้านเทคนิค แต่มีเกณฑ์กำหนดกว้างๆไว้แล้ว ซึ่งรฟม.จะเปิดรับซองข้อเสนอคุณสมบัติ เทคนิค และราคา ในวันที่ 9 พ.ย. ก่อน และเปิดซองพร้อมกันทั้ง 3 ซองคือคูณสมบัติ เทคนิค ราคา ในวันที่ 23 พ.ย. จึงสงวนสิทธิ์ในการกำหนดเงื่อนไขการให้คะแนนทางด้านเทคนิคหลังการับซองไปแล้วอีกครั้ง ที่ไม่ประกาศเงื่อนไขการให้คะแนนก่อน เพราะจะเป็นการบอกข้อสอบล่วงหน้า จึงต้องเปิดรับซองก่อนการกำหนดเกณฑ์ย่อย โดยจะกำหนดการให้คะแนนทางด้านอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่นั้น ขอสงวนสิทธิ์ไว้ก่อน แต่เบื้องต้นจะกำหนดการให้คะแนนต้องมีประสบการณ์การทำอุโมงค์ที่คล้ายคลึงกันเป็นหลัก

ขณะที่เกณฑ์การให้คะแนนข้อเสรอด้านการเงิน มีการแบ่งคะแนน 60% เป็นเรื่องของการเสนอราคาแข่งขันกัน อีก 10% เป็นเรื่องความเป็นไปได้ข้อเสนอทางด้านการเงิน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามว่าหากคนที่เสนอราคารองจากผู้ที่เสนอราคาดีสุดจะมีคะแนนเป็น 0 หรือไม่ นายภคพงศ์ กล่าวว่า การพิจารณาคะแนนทางด้านราคาจะคิดเป็นสัดส่วนลดหลั่นลงมา ไม่ได้ตัดคะแนนทิ้ง แต่ที่ต้องแบ่งเกณฑ์ 10% ออกมาด้วยนั้นเพราะต้องการข้อเสนอทางด้านการเงินที่ทำได้จริง มีความน่าเชื่อถือ และมีความเป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่มีการล้มประมูล โดยจะเดินหน้าการประมูลตามปกติ เพราะรฟม.มีสิทธิ์ในการดำเนินการ คาดว่าการประมูลจะแล้วเสร็จได้ผู้ชนะการประมูลต้นปี 2564

ส่วนกรณีที่บีทีเอสร้องศาลปกครองกลางนั้น นายภคพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอศาลปกครองกลางนัดไต่สวน ซึ่งหากมีมติให้คุ้มครองฉุกเฉิน รฟม.ก็จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลเช่นกัน แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้มีการล็อคสเปคให้ผู้ซื้อซองรายใดรายหนึ่งที่มีกระแสข่าวว่าสนิทกับตน เพราะรฟม.จะยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และปฏิบัติต่อคูสัญญาที่เป็นคู่ค้าเหมือนกันหมดกัน โดยบีทีเอสก็เป็นคู่สัญญากับรฟม.เช่นกันทั้งรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง เหมือนกับคู่สัญญาที่ทำรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

"เราแปลกใจว่าบีทีเอสจะกังวลอะไร ถ้าคิดว่ามีข้อเสนอที่มีคุณภาพพอ เพราะรฟม.ต้องการข้อเสนอที่มีคุณภาพ มีเทคนิค และงานก่อสร้างและมีความปลอดภัย เราไม่อยากให้เกิดเหมือนที่ผ่านมากรณีรถไฟฟ้าสายสีชมพูถล่มลงมา และการก่อสร้างรถไฟที่ปากช่องถล่ม"

ส่วนที่ว่าผู้ซื้อซองรายหนึ่งจะมีการเสนอประสบการณ์ทำรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่มีการลอดอุโมงค์แม่น้ำเจ้าพระยามาเป็นประสบการณ์นั้น นายภคพงศ์ กล่าวว่า เขื่อว่าทุกรายก็จะนำประสบการณ์ที่เคยทำรถไฟฟ้ามาแข่งขันกัน และยืนยันไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร เพราะการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ยังยึดหลักสาระสำคัญคือ เสนอซองทั้ง 3 ซอง เป็นหลัก โดยการให้คะแนนซองเทคนิคก็ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น ในสมัยการประมูลสายสีน้ำเงินช่วงปี 2541 ก็เคยใช้เทคนิคมาเป็นเกณฑ์การให้คะแนนเช่นกัน