เสียงข้างมากหนุนตั้งกมธ.ศึกษาญัตติแก้รธน.

(24 กันยายน 2363) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพักการประชุม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการรู้ถึงความชัดเจนจะนับหนึ่ง รับหลักการ แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ การให้มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เกิดขึ้น และมีระยะเวลาไปอีก 1 เดือน ก่อนโหวตวาระ 1 คว่ำ เเสดงว่า ส.ส.จะไม่สามารถเสนอวาระในสมัยหน้าได้หรือไม่ และรายชื่อที่มีการเสนอมาของประชาชนนั้น ถูกตีตกไปด้วยหรือไม่ พรรคก้าวไกลคงสังฆกรรมประวิงเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปอีก 8 -9 เดือน

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตลอดเวลา 2 วัน ได้ฟังรอบด้าน เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่าพรรคพร้อมทำหน้าที่แทนประชาชนที่เลือกมา และยินดีหากจะมีการเลื่อนเวลาออกไป เพื่อแก้วิกฤตที่กำลังเผชิญอยู่ สนับสนุนตามการเสนอญัตติของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และขอให้คำมั่นว่า พร้อมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า เวลานี้ประชาชนทราบวาระซ้อนเร้น ยื้ดระยะเวลารับหลักการ ซึ่งการใช้ข้อบังคับ 121 วรรค 3 อันตรายมาก เพราะจะทำให้สภาถึงทางตัน แล้วทำให้เกิดภาวะวิกฤตรุนแรงนอกสภา

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงประธานรัฐสภาให้ควบคุมเวลา และไม่รวบรัดตัดตอน ให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็น ตนไม่อยากบอกว่ารัฐบาลนั้นแหกตาประชน การเสนอเช่นนี้คืออะไร จะปล่อยให้สภาฯนี้ ไม่มีเกียรติ หรือปล่อยให้ประชาชนประท้วงบนถนนหรืออย่างไร

โดยในเวลา 20.11 น. ประธานรัฐสภาได้เรียกนับองค์ประชุมเพื่อลงมติ ให้มีการตั้งกมธ.วิสามัญศึกษา ก่อนรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีราย และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเสนอญัตติ โดยมีจำนวนผู้ลงมติ 715 คนเห็นด้วย 432 คน ไม่เห็นด้วย 255 คน งดออกเสียง 28 คน ไม่ลงเสียง 1 คน พร้อมเสนอกมธ.จำนวน 45 คน ทำหน้าที่พิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ขอร่วมสังฆกรรมในรายชื่อกมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย