svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

อ่วม! "อริสมันต์" ศาลสั่งจำคุก 4 ปี โครงการบ้านเอื้ออาทร

24 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลสั่งจำคุก4 ปี "นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง" ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด พร้อมออกหมายจับแล้ว เหตุไม่มาฟังคำพิพากษา ซึ่งคดีนี้ศาลฎีกานักการเมือง พิพากษา จำคุก "วัฒนา เมืองสุข" คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร 99ปี พร้อมพรรคพวก

(24 กันยายน 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ได้มีคำพิพากษาจำคุก นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ 2 และสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นเวลา 99 ปี  แต่ให้คงจำคุกสูงสุด50ปี สั่งริบทรัพย์สินกว่า 1323ล้านบาท ตามความผิด ม.148 เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์ตามป.อาญาม.148โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายวัฒนาให้ความสนใจในการติดตามกำกับดูแลโครงการ ดังนั้นน่าจะรับรู้ รู้เห็นเป็นใจในการเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ และการที่นายวัฒนาปล่อยให้จำเลยที่ 4 คือ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ แสดงตนเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี พฤติการณ์ดังกล่าวมีเจตนาเป็นการเอื้ออำนวยให้ เสี่ยเปี๋ยง กับพวก แสวงหาผลประโยชน์โดยอ้างชื่อของนายวัฒนา ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และพฤติการณ์ของนายวัฒนา เป็นการเร่งรัดให้ผู้ประกอบการการนำเงินมาให้ล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกรับเงินและเพิ่มจำนวนเงินเพื่อให้ได้รับการอนุมัติหน่วยก่อสร้างด้วย แม้ทางการเงินจะไม่มีความเชื่อมโยงหรือจะได้รับเงินหรือไม่ก็ตาม ไม่ใช่สาระสำคัญ
ในส่วนของจำเลยที่ 10 คือ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือกี้ร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย, เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดเช่นกัน ลงโทษจำคุก 4ปี ริบทรัพย์ 40ล้านบาท ซึ่งองค์คณะเสียงข้างมากเห็นว่า แม้จะไม่ปรากฏว่าผู้หญิงที่รับเงิน 40 ล้านบาท เป็นใครและมีความสัมพันธ์กับจำเลยที่ 10 อย่างไร แต่คำเบิกความของพยานเป็นการซักถามถึงการจ่ายเงินด้วยความระมัดระวัง พฤติการณ์ของจำเลยที่ 10 เป็ยการยุยงส่งเสริมให้พยานตัดสินใจจ่ายเงิน 40 ล้านบาท เพื่อให้โครงการได้รับอนุมัติ ประกอบกับเช็กที่จ่ายไปถึงจำเลยที่ 7-8 ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับขบวนการในคดีนี้ แม้ผู้กระทำผิดจะรู้ถึงความช่วยเหลือของจำเลยที่ 10 หรือไม่ก็ตาม พฤติการณ์ของจำเลยที่ 10 ก็ถือเป็นการสนับสนุนส่วนจำเลยที่ 4 คือ นายอภิชาติ  จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ ศาลพิพากษาจำคุก66ปี คงจำคุกสูงสุด50ปี ริบทรัพย์รวมจำนวนเดียวกับนายวัฒนา 1323ล้านบาท โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เสี่ยเปี๋ยง เป็นตัวกลางในการรีดเงินจากผู้ประกอบการรายใหญ่ และการกระทำความผิดมีลักษณะเป็นกระบวนการ 
ส่วนจำเลยที่ 5 คือ น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง มีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิดกับเสี่ยงเปี๋ยง เพื่อเรียกรับเงิน ลงโทษจำคุก 20ปี ริบทรัพย์ 763ล้านบาท
รวมถึงจำเลยที่ 6 คือ น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด มีส่วนสำคัญในการทำให้การเรียกรับเงินสำเร็จลุล่วงโดยอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลักดันโครงการ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นรวมถึงการติดตามทวงถามรับเช็คเช่นเดียวกับจำเลยที่ 5 ลงโทษจำคุก44ปี ริบทรัพย์รวมจำนวนเดียวกับนายวัฒนาคือ 1323ล้านบาท
ส่วนจำเลยที่ 7 คือ น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการรับเงินจากผู้ประกอบการ ร่วมกระทำความผิดกับเสี่ยเปี๋ยง ลงโทษจำคุก 32ปี ริบทรัพย์ 1056ล้านบาท
ขณะที่จำเลยที่ 8 คือ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดยนายปกรณ์ อัศวีนารักษ์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน ถือเป็นนิติบุคคล เมื่อเสี่ยงเปี๋ยง เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการและเมื่อได้เงินมานำไปให้กับนางสาวกริงทอ และนางสาวรุ่งเรือง และนำเงินไปเข้าบริษัท จึงเป็นการร่วมกันกระทำความผิด ลงโทษปรับ 275,000บาทโดยทั้งหมดจะต้องชำระทรัพย์สินคืนภายใน30วัน หากเกินกว่ากำหนดจะต้องชำระดอกเบี้ย7.5%ต่อปีจนกว่าจะจชำระหมดนอกจากนี้ศาลยังสั่งให้ออกหมายจับ นางสาวกรองทอง จำเลยที่6 /นางสาวรุ่งเรืองจำเลยที่ 7 และนายอริสมันต์ จำเลยที่ 10 เนื่องจากไม่มาฟังคำพิพากษาและไม่มีทนายมาเป็นตัวแทน
ทั้งนี้นายวัฒนา และพวก อยู่ระหว่างการยื่นประกันตัว เพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์

logoline