" ปลาวาฬ อิสสระ
ปลาวาฬบ่นม๊อบ 19 กันยา ออกอากาศเป็นภาษาอังกฤษ เลยมีเด็กแห่ไปถล่ม หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุสิบกว่าขวบไปแขวะปลาวาฬว่า ภาษาอังกฤษห่วย !
มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าเด็กพวกนี้ที่ชอบอวดว่าตัวเองมีเครื่องมือไฮเทคติดตัว ทำให้ตัวเองรอบรู้ เพราะเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกง่ายดาย แต่ความจริงเด็กพวกนี้สมองกลวง ไม่เคยค้นหาข้อมูลที่มีประโยชน์ แต่ชอบเสพข่าวเท็จไปวันๆ
จึงไม่เคยรู้ว่า ปลาวาฬ อิสสระ คนนี้คือคนรุ่นใหม่(ตัวจริง) ที่ไปเรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่ 10 ขวบ ต่อด้วยอเมริกา และสวิสเซอร์แลนด์
ซึ่งแปลว่าภาษาอังกฤษดีมาก ดีมากๆ ผมฟังที่ปลาวาฬ บ่นออกอากาศเป็นภาษาอังกฤษแล้วบอกได้เลยว่า ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษดี แต่สำเนียงเนทีฟอิงลิช คือพูดสำเนียงเหมือนเจ้าของภาษาแท้ๆ เลย
พวกเด็กมีสีทั้งหลายยังเหิมเกริมประกาศแบน ศรีพันวา ของปลาวาฬ โดยไม่มีความรู้อีกเช่นเคยว่า ศรีพันวา ไม่ใช่สินค้าใน 7/11 ปากซอย
แต่ศรีพันวาคือ โรงแรม 5 ดาว แบนด์ไทยแท้ ระดับโลก ที่ได้รับการโหวตให้เป็น 1ใน 100 ของโรงแรมสุดหรูของโลก รวมทั้งเป็นหนึ่งในสามของบีชบาร์ที่ดีที่สุดของโลก และได้รับรางวัลให้เป็น โรงแรมที่วิวดีที่สุดในโลก
ทำให้มีโอกาสได้ต้อนรับบุคคลที่มีชื่อเสียงของโลกมาแล้วมากมาย อาทิ เคนนี่ จี,โรเบิร์ต เฮช เบิร์นและเชฟ กอร์ดอน แรมซี่ย์
ไอ้การที่จะแบนศรีพัน อยากถามว่า แบน จากใคร
แบนสินค้าโดยเด็กที่เกิดมายังไม่เคยขึ้นเครื่องบิน ไม่เคยสัมผัสเท้าก้าวย่างเข้าไปในโรงแรม 5 ดาวระดับโลก อย่างนั้นหรือ?
ไม่มีปัญญาได้ใช้บริการจากเขา แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปแบน
ปลาวาฬบอกว่า เขาไม่เคยอยากจะคอมเมนท์เรื่องการเมือง ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่การที่ม็อบที่แอบอ้างว่ารวมตัวกันประท้วงรัฐบาล เพื่อประชาธิปไตย แต่สิ่งที่เห็นมีแต่การจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทำให้เขาหมดความอดทน
มีเรื่องหนึ่งที่ผมฟังปลาวาฬพูดแล้ว อยากเอามาขยายความ...
ปลาวาฬพูดว่า เขาภูมิใจในความเป็นคนไทย ภูมิใจในประเทศไทยที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร
ตอนตัวผมเองมาเรียนที่ออสเตรเลียใหม่ๆตอนเรียนภาษาอังกฤษต้องเจอกับนักเรียนจากประเทศต่างๆทั่วโลกมีอยู่วันหนึ่งพวกเราสนทนากันถึงเรื่องราวของประเทศของเพื่อนร่วมชั้นเรียนแต่ละคน
มีเด็กคนหนึ่งบอกว่าประเทศเขาพูดภาษาสเปนอีกคนบอกว่าประเทศเขาพูดโปรตุเกสอีกคนบอกว่าประเทศเขาพูดฝรั่งเศสฯ
แล้วมีอีกคนถามผมว่าแล้วประเทศยูพูดภาษาอะไร?
ผมตอบว่าภาษาไทย
เพื่อนต่างชาติอีกคนถามต่อว่า
ไม่ใช่ฉันไม่ได้หมายถึงภาษาของชนชาติแต่เป็นอีกภาษาภาษาของประเทศเจ้าอาณานิคมของประเทศยูนะ
ผมตอบว่า...
ประเทศไทยไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของในฝรั่งชาติใดเลย
ที่นี่คนที่นั่งอยู่รอบข้างทั้งหมดหันมาที่ผมและพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายว่า
อะไรนะ!
ไม่เคยตกเป็นอาณานิคมฝรั่งชาติใดเลย!
ล้อเล่นรึป่าว
ผมตอบสั้นๆว่า...ใช่...ไม่เคย
มีอีกคนหนึ่งพูดว่า...
เป็นไปได้ยังไง!
ถ้ายูมาจากญี่ปุ่นฉันจะไม่แปลกใจเลย
แต่ประเทศไทย!!!
ไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจที่พัฒนาแล้วนิ
แล้วประเทศยูรอดมาได้ยังไง
แหม...เข้าทาง
ถ้าถามผมเรื่องอื่นผมอาจตอบไม่ได้
แต่ถามเรื่องประวัติศาสตร์...ตอบได้ยาวเลย
ผมเล่ายาวนะแต่สรุปสั้นๆว่า
เรารอดจากการเป็นอาณานิคมมาได้เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักและมีพระปรีชาสามารถมาก
เพื่อนต่างชาติอึ้งทึ้งพร้อมใจกันยกย่องว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดานะที่รอดมาได้ต้องเก่งและทำงานหนักสุดๆจริงๆ
และความเข้าใจเดิมๆของเขาคือเกือบทั้งโลกเคยตกเป็นอาณานิคมมาแล้วทั้งสิ้นจะยกเว้นก็เฉพาะประเทศอย่างจีนญี่ปุ่นเท่านั้น
วันนั้นผมแบกความภาคภูมิใจกลับบ้านด้วยหัวใจพองโตอย่างที่ไม่เคยคิดว่าการที่เราไม่เคยตกเป็นอาณานิคมเป็นเรื่องที่ทำให้เพื่อนต่างชาติทั้งอึ้งและทึ้งและมันน่าภาคภูมิใจได้ขนาดนี้
เด็กรุ่นใหม่ยุคไอที ที่มีเครื่องมือไอทีอันทันสมัย มีความรู้ แต่ไม่มีปัญญา พิจารณาว่าอะไรคือดี อะไรคือไม่ดี อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ
และไม่รู้ว่าข่าวคราวเรื่องพระมหากษัตริย์นั้นถูกยุยงปลุกปั่นขึ้นมาโดยใคร ยังไง เพื่ออะไร
ถ้าเขาเหล่านั้นเป็นนักเรียน นักศึกษา เป็นบัณฑิตจริง เขาก็จะมีภูมิคุ้มกันว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ของเราปกป้องคุ้มครองชาติและประชาชนมายังไง และมีคุโณปการอย่างไรต่อบรรพบุรุษของตนเองอย่างไร
เหมือนอย่างที่ ปลาวาฬ อิสสระ เด็กหนุ่มที่ไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ 10 ขวบกลับมีความรักและภักดีต่อชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า คนที่อยู่เมืองไทยมาทั้งชีวิต
............................................................................
อัษฎางค์ ยมนาค
ขอบคุณข้อมูลจาก FB อัษฎางค์ ยมนาค