svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

'ศักดิ์สยาม' ลุยพัฒนาโครงข่ายคมนาคมตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

23 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดงาน "MOT 2020 Move On Together คมนาคมเคียงข้างชาวใต้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤติ COVID-19" เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการและการเสวนาสร้างการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการและการเสวนาสร้างการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี และส่งเสริมพัฒนาความรู้ด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัย ประจำปี 2563 ครั้งที่ 2 ภายใต้ชื่อ "MOT 2020 Move On Together คมนาคมเคียงข้างชาวใต้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤติ COVID-19" และกล่าวเปิดงาน "คมนาคมภูมิใจ รวมไทยสร้างชาติ" ในวันพุธที่ 23 กันยายน 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้อง chandelier ชั้น 1 โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา โดยมี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนและสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน 

'ศักดิ์สยาม' ลุยพัฒนาโครงข่ายคมนาคมตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี



นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเร่งหามาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบและฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจซึ่งหดตัวลงให้กลับมาขยายตัวเป็นบวกขึ้น แต่ในขณะเดียวกันยังคงมาตรการป้องกันและการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ไว้เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงฯ เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการเดินหน้าทางเศรษฐกิจ มีบทบาทหน้าที่ในการดูแลด้านการคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง ซึ่งตั้งแต่ที่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ยึดหลักบริหารงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการไว้   มาโดยตลอด พร้อมกับการผสมผสานเพิ่มเติมนโยบายที่เน้นสนองตอบความต้องการของประชาชนภายใต้สถานการณ์สังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

'ศักดิ์สยาม' ลุยพัฒนาโครงข่ายคมนาคมตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

ในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางบก ได้เร่งรัดพัฒนาให้เกิดการเชื่อมโยงความเจริญสู่ภาคใต้ เพื่อให้สามารถสัญจรได้สะดวก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขยายถนนพระรามที่ 2 และก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ ขนาด 4 ช่องจราจร โดยมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สามแยกวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 3510 ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ซึ่งเส้นทางนี้จะช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจร และเพิ่มความรวดเร็วและคล่องตัวในการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ภาคใต้ พร้อมทั้งเร่งรัดโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ช่วงนครปฐม - ชะอำ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายหาดใหญ่ - ชายแดนไทย/มาเลเซีย  เชื่อมภาคกลางสู่ภาคใต้ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทางดังกล่าวโดยเร็วที่สุด และในอนาคตยังมีแผน  ที่จะพัฒนาโครงข่ายร่วมกันระหว่างทางรถไฟกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองภายใต้กรอบแผนแม่บท MR-MAP (Motorways + Rails) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมในรูปแบบใหม่ที่จะเพิ่มความเชื่อมโยงภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียน มีความปลอดภัยสูงขึ้น และลดภาระในการลงทุนของภาครัฐในระยะยาว

'ศักดิ์สยาม' ลุยพัฒนาโครงข่ายคมนาคมตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี


นโยบายด้านระบบคมนาคมทางน้ำ ได้เร่งพัฒนาท่าเทียบเรือขนาดใหญ่และท่าเทียบเรือน้ำลึก รวมทั้งโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land Bridge) โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสร้างความเจริญให้กับประเทศ และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางน้ำที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน



กระทรวงฯ ยังมีวิสัยทัศน์ที่จะพลิกโฉมการขนส่งระบบรางของไทย เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ  และกระจายความเจริญสู่ภาคใต้ โดยการพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่ จำนวน 5 ช่วง ได้แก่ ช่วงนครปฐม - หัวหิน ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา และช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ รวมทั้งผลักดันเส้นทางรถไฟสายใหม่ 3 สาย ได้แก่ ช่วงชุมพรระนอง ช่วงสุราษฎร์ธานี - ท่านุ่น และช่วงสุราษฎร์ธานี - ดอนสัก ส่วนด้านการคมนาคมทางอากาศ ได้เพิ่มขีดความสามารถการให้บริการของท่าอากาศยานรองรับการท่องเที่ยวภาคใต้ ได้แก่ การปรับปรุงท่าอากาศยานหัวหิน ภูเก็ต หาดใหญ่ กระบี่ ตรัง นครศรีธรรรมราช สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และท่าอากาศยานแห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการภายในปีนี้คือ ท่าอากาศยานเบตง

'ศักดิ์สยาม' ลุยพัฒนาโครงข่ายคมนาคมตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี


นอกจากการพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมแล้ว กระทรวงฯ ยังคำนึงถึงความปลอดภัยในการเดินทาง โดยคิดค้นกันชนยางพาราครอบแบริเออร์คอนกรีต (RFB) และเสาหลักนำทางจากยางพารา (RGP) ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ทาง ตลอดจนยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรสวนยาง โดยรับซื้อน้ำยางพาราโดยตรงจากเกษตรกร ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทั้งนี้ กระทรวงมีแผนดำเนินการโครงการดังกล่าว ระหว่างปี 2563 - 2565 วงเงิน 85,623 ล้านบาท โดยตั้งเป้าผลิตแผ่นยางหุ้มแบริเออร์ 12,282 กิโลเมตร 83,421 ล้านบาท และหลักนำทางยางพารา 1.063 ล้านต้น 2,202 ล้านบาท คาดว่าจำนวนเงินที่เกษตรกรจะได้รับ 3 ปี รวม 30,108 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณน้ำยางที่ใช้ 1 ล้านตัน เฉลี่ยปีละ 300,000 ตัน 
การจัดนิทรรศการและการเสวนาสร้างการรับรู้ฯ ในครั้งนี้ เป็นการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วม   ของประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน โดยภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย การเสวนา หัวข้อ "คมนาคมเคียงข้างชาวใต้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤติ COVID-19" นำโดย นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร นำเสนอมุมมองในฐานะภาครัฐที่ช่วยผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เพื่อกระตุ้นจ้างงาน กระจายรายได้ ควบคู่ไปกับการปรับบริการระบบขนส่งสาธารณะสู่  "New Normal" เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางชีวอนามัย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต นางสาวชมพู มฤศโชติ ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี นำเสนอมุมมองของธุรกิจท่องเที่ยวที่ต้องปรับตัวรับเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ รวมถึงข้อเสนอแนะหรือความต้องการของภาคการท่องเที่ยว นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน บอกเล่าถึงการปรับตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว และความคาดหวังที่มีต่อการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ รองเลขาธิการหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และประธานกิตติมศักดิ์ Yec-Prachuap นำเสนอแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 

การเพิ่มโอกาสทางการค้าด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้สู่ภูมิภาค ตลอดจนความคาดหวังที่มีต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเชื่อมโยงครอบคลุมทุกโครงข่าย อำนวยความสะดวก ในการขนส่งสินค้า ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวและการค้าได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย  จากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเสวนาได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งร่วมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ภายในงานได้จัดแสดงนิทรรศการผลงานกระทรวงฯ ผ่านสื่อ Multimedia ที่ทันสมัยนำเสนอข้อมูลโครงการสำคัญที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง แผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลและกระทรวงฯ โครงการที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และการส่งเสริมความรู้ด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัย

logoline