svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ด่วน! ศาลอาญารับฟ้องคดี "ดร.เซปิง" ฟ้อง "หนุ่ม กรรชัย" เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท

23 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ศาลอาญา" รับฟ้องคดี "ดร.เซปิง" ฟ้อง "หนุ่ม กรรชัย" ที่ในรายการ "โหนกระแส" มีการพูดใส่ความโจทก์ พร้อมกับเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 50 ล้านบาท .

คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2562 ระบุว่า โจทก์เป็นผู้ก่อตั้งโครงการเฟสออฟบายด๊อกเตอร์เซปิง ให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรม หากใครจะทำก็จะแนะนำให้ไปทำกับโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2562 รายการโหนกระแสทางสถานีโทรทัศน์ช่องสาม ออกอาการรายการ "ภาค 2 เฟสออฟเปลี่ยนหน้าคนเป็นหน้าผี" มี หนุ่ม นายกรรชัย กำเนิดพลอย เป็นพิธีกร เชิญจำเลยอื่นๆ มาร่วมรายการลักษณะพูดถามกันไปมามีการวางแผนใส่ความโจทก์
แม้ไม่ระบุชื่อโจทก์แต่ใช้เทคนิคตั้งชื่อหัวข้อรายการเพื่อเชื่อมโยงให้เข้าใจว่าเป็นโจทก์ กับยังเอาข่าวที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล แถลงข่าวมาอ้างอิงในรายการ โดยมีเจตนาให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงขอให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาท
อีกทั้งเมื่อมีข่าวและมีการออกอากาศ รายการออกไปทำให้แทบไม่มีคนมีใช้บริการโครงการดร.เซปิง หรือถูกยกเลิกนัดทั้งหมด ที่โจทก์วางแผนชีวิตทำธุรกิจ และจะลงสมัคร ส.ส. แต่ชื่อเสียงต้องมาจบสิ้น
ล่าสุดที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดี อ.1693/2562 ที่ ดร.เซปิง ไชยศาสน์ อายุ 47 ปี ประธานโครงการศัลยกรรมความงามเฟซออฟ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกรรชัย หรือ หนุ่ม กำเนิดพลอย พิธีกรทีวีรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 นายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน ทนายความ กับผู้เสียหายเหยื่อศัลยกรรม ที่มาออกรายการทั้งหมด 7 คน เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยฟ้องเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 50 ล้านบาท

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว โจทก์เบิกความว่า จำเลยทั้ง 7 คนได้ร่วมกันใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณา จากการร่วมกันพูดออกรายการ "โหนกระแส" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยนายกรรชัย จำเลยที่ 1 นำภาพวีดีโอการแถลงข่าวของเจ้าพนักงานตำรวจมาประกอบและอธิบายในรายการ ซึ่งมีทั้งชื่อ นามสกุลและภาพของโจทก์ในผังเชื่อมโยงที่เจ้าพนักงานตำรวจจัดทำขึ้น และเป็นภาพและเสียงที่ปรากฏอยู่ในสื่อมวลชนอย่างแพร่หลาย ที่มีการระบุชื่อ โจทก์อย่างชัดเจนในการแถลงข่าวดังกล่าวมีจำเลยหลายคนไปร่วมและมอบดอกไม้ด้วย
ทั้งนี้จำเลยทั้ง 7 คน มีเจตนาที่จะสื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจและทราบว่าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในรายการ คือ ตัวโจทก์ โดยมีเจตนาใส่ความ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ซึ่งในชั้นนี้การถามค้านของจำเลยทั้ง 7 คน ยังไม่เพียงพอที่จะนำมาหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ เห็นว่าคดีของโจทก์มีมูลและให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา และนัดตรวจพยานหลักฐาน สอบคำให้การเพื่อกำหนดนัดสืบพยานในวันที่ 16 พ.ย. 2563 นี้ เวลา 09.00 น.


logoline