ซึ่งขณะนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มได้ทำการยื่นเรื่องร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้ขอให้มีการคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว รีสอร์ททั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ต.แม่แรมอ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ขณะเดียวกันได้เดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯเพื่อขเยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาสิทธิที่ดินและร้องขอให้เข้าทำการตรวจสอบการทำหน้าที่ของกรมป่าไม้ว่ามีความถูกต้องหรือไม่
ขณะนี้ที่พักบนดอยม่อนแจ่งยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยยึดคำสั่ง คสช.ที่6-2562 ที่ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวกรณีที่มีการเปิดที่พักที่ไม่มีใบอนุญาตให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอเว้นโทษจับกุม เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขให้กลุ่มผู้ประกอบการดำเนินการได้อย่างถูกต้อง ขณะที่มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่รัฐบาลได้ออกมาหวังให้คนไทยเที่ยวในประเทศ ด้วยการจัดแพ็คเก็จให้นักท่องเที่ยวเดินทางซึ่งโครงการดังกล่าวนั้นไม่ได้มีผลต่อที่พักในพื้นที่ม่อนแจ่ม
เนื่องจากที่พักบนดอยไม่อยู่ในเงื่อนไขที่ทางรัฐบบาลกำหนดไว้เนื่องจากนโยบายดังกล่าวที่พักที่จะเข้าโครงการได้จะต้องเป็นที่พักที่มีใบอนุญาตซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เขตเมือง จากเสียงของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพักต่างระบุว่า ที่เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ เพราะต้องการสัมผัสกับธรรมชาติ ดังนั้นโครงการที่รัฐบาลออกมาจึงไม่ตอบโจทย์ของนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวได้ปรับตัวลดลงประมาณร้อยละ 40เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และ นักท่องเที่ยวไม่แน่ใจว่าจะมีการรื้อถอนรีสอร์ทหรือไม่จึงยังลังเลที่จะเดินทางเข้ามาพัก
แต่การลงพื้นที่สำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่ามีการจองห้องพักเข้ามาในเดือนตุลาคม 2563 โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง หลายแห่งถูกจองเต็มจนถึงช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะมีคำสั่งจากกรมป่าไม้ให้เข้าทำการรื้อถอนที่พักแต่นักท่องเที่ยวยังคงให้ความสนใจและนิยมเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อยู่เป็นจำนวนมา