"สุทิน"ขอทุกฝ่ายแก้รธน.ยึดผลประโยชน์ชาติ

(22 กันยายน 2563) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่านค้านกล่าวว่า การพูดคุยกับ ส.ว. ในการเห็นชอบรับหลักการการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเข้าประชุมรัฐสภา ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ย. นี้ ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปคุยอะไรมาก เพราะมันไม่ใช่ผลประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่มัน คือ ผลประโยชน์ของประเทศ และสังคม ซึ่งย้ำว่าวันนี้ (22ก.ย.) การแก้รัฐธรรมนูญ ต้องแก้เพื่อสังคม ไม่ใช่แก้แล้ว ส.ส. จะได้ หรือ ส.ว. จะเสีย คงไม่ต้องไปเสียเวลางอนง้ออะไรกันมากมาย

ส่วนญัตติทั้ง 6 ฉบับ จะผ่านความเห็นชอบในขั้นรับหลักการทั้งหมดเลยหรือไม่ ส่วนตัวไม่สามารถประเมินได้ แต่หากประเด็นใดเห็นตรงกัน ก็ร่วมกันได้เลย หากมีหลักการตรงกัน ก็สามารถพิจารณาพร้อมกันได้ เช่น ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 ของวิปทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ควรนำมาพิจารณาก่อน หาก 6 ญัตติไม่ผ่านในวาระรับหลักการ ก็จะยื่นอีกในสมัยหน้า ฉะนั้นก็ต้องพยายามทำให้สำเร็จ

สำหรับกรอบระยะเวลานั้น วันแรกก็ควรพิจารณาให้แล้วเสร็จในญัตติที่มีหลักการเดียวกัน และญัตติที่เหลือก็เป็นในวันถัดไป ซึ่งการลงมตินั้น จะต้องมีการขานชื่อในการโหวต ตนจะเสนอในที่ประชุมร่วมทั้ง 3 ฝ่ายว่า อยากให้มีการโหวตแบบขานชื่อ แต่สามารถโหวตได้ในคราวเดียว ทั้ง 6 ญัตติ เช่น ตนชื่อนายสุทิน คลังแสง เห็นชอบในญัตติ 1 ไม่เห็นชอบในญัตติ 2 เห็นชอบในญัตติ 3 เป็นต้น ซึ่งการทำเช่นนี้ จะเป็นการประหยัดเวลาในการโหวต

นายสุทิน กล่าวต่อว่า กรณีในส่วนของภาคประชาชน จะเข้ามาเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) คนนอกหรือไม่ จะมีการพูดคุยกันในที่ประชุมด้วย เพราะเมื่อศึกษาดูแล้ว หลักการใกล้เคียงกัน ส่วนตัวก็อยากให้มาร่วมกัน และเนื้อสาระก็นำเข้าในชั้นแปรญัตติได้

ส่วนการเปิดประชุมสมัยวิสามัญนั้น ในฐานะฝ่ายค้านมองว่า หลังจบพิจารณารับหลักการแล้ว จะยื่นขอเปิดประชุมวิสามัญทันที แต่ก็ต้องดูอีกทีว่า ให้กมธ.ในการพิจารณากี่วัน ถ้า 60 วัน ก็ต้องเปิดในสมัยหน้า แต่หากให้พิจารณาเพียง 14-15 วัน เวลาที่เหลืออีก 15 วัน ก็ควรจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้

ขณะที่นายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการโหวตลงญัตติแบบขานชื่อในคราวเดียวกันทั้ง 6 ญัตติ ว่าสามารถทำได้ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ