"ดร.เสรี" ชำแหละแผน 8 ข้อ ชี้ 'ทักษิณ' เคลื่อนไหว

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 - 15.00 น.ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (21 ก.ย.) "ทอม ทศวรรต ทะสุวร" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้สัมภาษณ์ความคิดเห็น "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" เกี่ยวกับประเด็นม็อบเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา8 ข้อเรียกร้องที่เพนกวินบอกว่าทำได้ ข้อแรกเขาบอกให้ยืนตรงชู 3 นิ้วเคารพธงชาติ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ได้?"อย่างน้อยให้เห็นว่าเขายังพร้อมเคารพธงชาติ ถามว่ายืนเคารพธงชาติชูสามนิ้วผิดมั้ย ไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดธรรมเนียม แต่อยากบอกว่าจงเตรียมรับผลลัพธ์ทางสังคม ถ้าสมมติไปยืนชูสามนิ้วในห้างสรรพสินค้า คิดว่าคนอยู่รอบๆ จะมองยังไง แล้วถ้าเพื่อนๆ ไม่เห็นด้วยเพราะรู้ว่าสัญลักษณ์ชูสามนิ้วเป็นอะไร เขาจะคบต่อไปมั้ย จะต่อว่ามั้ย จำไว้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดธรรมเนียม เพียงแต่ว่ารอรับผลกรรมที่จะเกิดขึ้นทางสังคม"เขาบอกเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงหนังไม่ต้องยืนขึ้น?"อันนี้ก็เหมือนกัน ไม่มีกฎหมายมาบังคับ แต่มีธรรมเนียมปฏิบัติของคนไทยมานานช้า ในฐานะที่เป็นคนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นเราเองก็รู้ประวัติศาสตร์ว่าประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์มีพระมหากรุณาธิคุณ สร้างบ้านสร้างเมืองพัฒนาประเทศมาโดยตลอด เพลงก็บอกว่าเย็นศิระเพราะพระบริบาล คือเราอยู่สบายร่มเย็นเพราะพระองค์ปกป้องคุ้มครองพวกเรา พวกเราจึงแสดงความจงรักภักดีด้วยการยืนขึ้นถวายความเคารพเวลาได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี ถ้าคุณไม่ยืนก็ไม่มีกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น แต่คนอื่นจะมองคุณด้วยสายตาประณาม"เขาบอกให้ผูกโบขาวที่กระเป๋า ที่รั้วหน้าบ้าน ที่รถ?"ก็ผูกไป โบสีขาวก็สวยดี ไม่มีใครไปห้าม อยากผูกก็ผูกไป คนบางคนอาจรู้ความหมายว่าผูกโบขาวหมายถึงอะไร แต่บางคนก็อาจไม่รู้ ทีนี้ถ้าเกิดบางคนเขาเคยดูหนังจีนเยอะๆ เห็นผูกโบขาวเขาจะถามว่าที่บ้านมีงานศพเหรอ (หัวเราะ) คุณอยากให้คนมองอย่างนั้นเยอะ แต่เอาเหอะ อยากทำก็ทำไป แต่อยากตั้งข้อสังเกตอย่างนึง ในการชุมนุมวันที่19-20 ก็มองหาโบสีขาว ปรากฎว่าแทบไม่เห็นเลย ขนาดเป็นวันชุมนุมซึ่งเป็นวันสำคัญของพวกเขา แล้ววันปกติธรรมดาที่เชิญชวนกัน คิดว่าจะมีคนผูกเยอะมั้ย แต่ผูกไปเถอะ สีสวยดีค่ะ สะอาดใสบริสุทธิ์ค่ะ ถ้าคนอื่นไม่ทำก็อย่าไปบังคับเขา ตอนนี้มีปัญหาคือทัวร์ลง พอพูดไม่ถูกใจทัวร์ก็ลง คนบางคนเป็นคนดัง มีอิทธิพล ไม่ยอมแสดงความคิดเห็น ทัวร์ก็ลงอีก ถ้าเกิดคุณรณรงค์ให้คนผูกโบขาว ถ้าเขาไม่ผูกคุณจะไปว่าอะไรเขาล่ะ"เขาบอกว่าเห็นขบวนผู้ใหญ่ให้บีบแตรใส่ ไม่ว่าอะไรก็ตาม?"คุณบีบได้ แต่ระวังนะ เวลาบีบแตร ระวังคนข้างหน้าจะว่าคุณบีบแตรไล่เขา ด่าเขา อย่าลืมว่ามีคนหัวร้อนบนถนนเยอะนะ"เขาบอกให้ติดป้ายเผด็จการไว้?"ถ้าคุณไปติดผิดที่ผิดทาง ตามหลักเทศบัญญัติเขาก็เอาออก คุณมีปัญญาติดก็ติดไป คุณติดเขาก็เอาออก แต่ระวังนะ ถ้อยคำที่เขียนนั้น ไปหมิ่นประมาท ใส่ร้ายใครหรือเปล่า เป็นการพูดจาแยกดินแดน พูดจาล้มล้างระบอบการปกครอง ระวังให้ดี จะติดอะไรต้องพูดถึงเทศบัญญัติ และกฎหมายว่าด้วยการยุยงปลุกปั่นทำลายความมั่นคงของประเทศด้วย"ข้อต่อไป นายกฯ ปฏิบัติภารกิจที่ไหนให้ขึ้นป้ายไม่ต้อนรับเผด็จการ?"ถ้าคนเขารักล่ะ เขาก็ไปต้อนรับ โอบกอด มีดอกไม้ให้ ตอนนี้ลุงเขาน่ารักจะตายไป"14 ต.ค. นัดหยุดงานทั่วประเทศ?"ต้องทำมาหากินมั้ย ถ้าเกิดหยุดงานแล้วรับจ้างรายวันแล้วไม่มีเงินขึ้นมาจะทำยังไง ก็ไม่รู้นะ ว่าคนชวนเขาทำมาหากินอะไร เขามีรายได้จากไหน แต่คนที่ถูกชวนหลายคนไม่ทำงานก็ไม่มีเงินนะ ฉะนั้นเราจำเป็นต้องอยู่ ต้องกิน ถ้าทำงานแล้วได้เงิน ทำเถอะค่ะ"หมุดคณะราษฎร์ 2475 กับ 2563 มีความเหมือนหรือต่างกันยังไง?"เขาต้องการสื่อความหมายเดียวกัน ในปี 2475 เมื่อคณะราษฎร์สามารถปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เขาก็ถือว่าเขาชนะ เขาก็ปักหมุดไว้ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ ทีนี้หมุดนั้นหายไปไหนก็ไม่ทราบ ทีนี้ฝั่งนี้ก็มองว่าสนามหลวง คำว่าหลวงขัดใจเขามาก เขาอยากเปลี่ยนเป็นสนามราษฎร แต่จริงๆ สนามหลวงก็เป็นของประชาชน เพียงแต่เขาขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานปี 2552 และมีคนกำกับดูแลคือกทม. และกระทรวงศึกษาธิการ ถ้าใครใช้ต้องไปขออนุญาต"

"ตรงนี้เขาก็ไปตะขิดตะขวงใจ เวลาเราจุดเทียนชัยถวายพระพร เวลาจะถวายพระเพลิง เราจะสร้างพระเมรุอยู่สนามหลวง เขาก็รู้สึกว่าเป็นของเจ้า คำว่าหลวงคือเจ้า เขาอยากเปลี่ยนให้เป็นสนามราษฎร เขาก็ไปทำหมุดมา และคิดว่าจะเอามาฝังทดแทนหมุดที่หายไป เขาก็เอามาฝังตรงนี้ ว่าต่อไปนี้ไม่มีสนามหลวงแล้วนะ จะมีแต่สนามราษฎรเท่านั้น ทีนี้เขาก็พยายามทำให้ม้นขลัง เขาเลยใช้พิธีพราหมณ์ แต่ไม่ใช่พราหรมณ์จริงแน่นอน พรามหมณ์ส่วนใหญ่ ใส่รองเท้าหนังสีขาว แต่คนนี้ใส่รองเท้ากีฬา เสร็จแล้วคำสวดของเขาก็ไม่ได้สวดแบบนั้น คำสวดจะเปลี่ยนไม่ได้ มิหนำซ้ำเวลาพราหมณ์ทำพิธี เขามีแต่อำนวยพรให้เราสุขสบาย ไม่สาปแช่งใคร""แต่พราหมณ์รายนี้ มีคำสาปแช่งเยอะแยะมากมาย นี่คือพิธีกรรมของเขา ซึ่งดูย้อนแย้งนะ ในขณะที่พยายามรื้อขนบธรรมเนียมมากมาย แต่เขากลับใช้พิธีกรรมไสยศาสตร์ และดูเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าฝังไปแล้วอาจต้องมีคนมาถอนแน่ๆ เขาเลยสาปแช่งว่าใครถอนให้เสื่อมโน่นเสื่อมนี่ ฟังแล้วตลกมาก ไม่เคยได้ยินพราหมณ์ที่ไหนสาปแช่งให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หัวเราะกันครืนๆ ขึ้นมา และในที่สุดเช้าวันนี้ก็มีคนถอนไปจริงๆ ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย กับการที่เขาฝังหมุดดังกล่าวนี้""ทีนี้พื้นที่สนามหลวงเป็นโบราณสถาน ขึ้นทะเบียนแล้ว ตั้งแต่พ.ศ.2552 ถ้าใครทำอะไรกับสนามหลวงติดคุกถึง 10 ปี และอาจโดนปรับถึง 10 ล้านบาท"สิ่งที่เกิดขึ้นเขาไม่ตรวจสอบก่อนเหรอ?"เขาตรวจสอบ แต่เขาเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อนเขาท้าทาย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลใช้ไม้นวมมาโดยตลอด เขาเห็นว่าจับ สอบสวน ประกัน ๆ เขาจึงไม่รู้สึกเกรงกลัว เขาท้าทาย และเชื่อว่าเวลาจับเขาได้วาทกรรมว่าคุกคาม อย่าลืมว่านอกจากคุกคาม ยังมีนิติสงครามกล่าวหารัฐบาลใช้กฎหมายปิดปากคนติดต่าง จะบอกว่าจริงๆ คิดต่างไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน พูดจาให้ร้าย ใส่ความคนอื่น ใส่ความเท็จลงคอมพิวเตอร์อันนั้นผิดกฎหมาย และถ้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อันนั้นไม่ใช่คุกคาม ถ้าไม่ทำเขาก็ผิด 157""การชุมนุมที่เกิดขึ้นวันที 19 20 มีหลักฐานคลิปวิดีโอมากมาย ที่จะทำให้เขาผิดกฎหมาย ยกตัวอย่างประตูธรรมศาสตร์ เขาใช้กุญแจใส่โซ่ แสดงว่าเจตนาไม่ให้ใครเข้า แต่เมื่อคุณไปเขย่าประตูเล็กประตูใหญ่ จนเข้าไปได้ อันนั้นเข้าข่ายบุกรุก ถ้าคุณทำให้กุญแจหัก โซ่ขาด คุณก็เข้าข่ายทำลายทรัพย์สิน ขณะที่คุณช่อบอกว่าไม่มีใครทำลาย มีการเปิดเข้าไปแต่พอมาดูโอ้โห คีมอันใหญ่มีทั้งเหลืองแดง ภาพการตัดมีชัดเจน ตรงนี้ภาพเชิงประจักษ์ ตรงข้ามกับสิ่งที่คุณช่อพูด จริงๆ แล้วสำหรับพวกเขา ถ้ามีภาพที่มีรปภ.เปิด รปภ.ไขกุญแจ ทำไมภาพนั้นจะไม่ปรากฎเป็นคลิป แต่มันไม่มี แต่ภาพบุกเข้าไป และขณะเดียวกันพวกเขาก็พูดเอง พังเลยๆ พังแล้วเชิญเข้ามาครับ เขาพูดเอง เป็นคลิปพวกเขาเอง แต่คุณช่อบอกว่าไม่ได้พัง เขาเปิดประตูให้เข้าไป ฉะนั้นความผิดเรื่องสนามหลวงก็ดี ทำลายทรัพย์สินก็ดี บุกรุกก็ดี ต้องเป็นคดีแน่นอน ตอนนี้ได้ข่าวว่ากรมศิลปากรจะไปฟ้องเรื่องสนามหลวง และธรรมศาสตร์จะไปฟ้องเรื่องการตัดโซ่บุกรุกเข้าสถานที่"19 ก.ย. ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร ต้องการแสดงสัญญาณอะไรหรือเปล่า?"วันที่ 19 ก.ย. 2549 เป็นวันที่บิ๊กบังทำการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลคุณทักษิณ ขณะที่คุณทักษิณอยู่ต่างประเทศ ฉะนั้นวันที่ 19 ก.ย. 2563 จึงเป็น 14 ปีในการครบรอบรัฐประหารพลเอกสนธิ มันจึงมีความหมายตรงนี้ เมื่อเลือกวันอย่างนี้ เราก็เห็นว่าคุณทักษิณซึงเงียบหายไปนาน เขาก็มีบทบาท แต่เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องม็อบนะ เขาพูดว่า 14 ปีที่เขาไม่ได้อยู่เมืองไทย เมืองไทยเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีการพัฒนาอะไรหรือเปล่า เขาเป็นคนไทยยังรักประเทศไทยอยู่นะ ซึ่งตรงนี้ต้องให้สักคนในฝ่ายรัฐบาลโพสต์แล้วเราช่วยกันแชร์ว่าตลอดระยะเวลาที่คุณทักษิณไม่อยู่ ประเทศไทยก้าวหน้าเรื่องอะไรบ้าง ทีนี้พอหลังจากคุณทักษิณให้สัญญาณแบบนี้ เราก็เห็นเรื่องการห้อยการโหน""ถึงแม้การชุมนุมครั้งนี้จะเกิดขึ้นโดยคุณเพนกวินเหมือนเป็นแกนนำ ทนายอานนท์ คุณรุ้งเหมือนเป็นแกนนำ ซึ่งคนเหล่านี้ถูกโยงเข้ากับสีส้มมากกว่า แต่ปรากฎว่าจำนวนคนที่มาชุมนุมในวันนั้น สีแดงเยอะกว่าสีส้ม ที่พูดแบบนี้เพราะชุดนักเรียนเห็นน้อยมาก โบสีขาวเห็นน้อยมาก สิ่งที่เห็นกับนักศึกษาคือการชูสามนิ้ว แต่ปรากฎว่าที่มาใส่เสื้อแดงเป็นแถว ถ้าตามดูจะพบว่าเสื้อแดงบริเวณรอบปริมณฑลก็มากัน ขนกันเป็นคันรถ เสื้อแดงจากทางเหนืออีสานก็มี ก็เข้าสู่การชุมนุมที่มีในอดีตที่ต้องมีการขนคน ซึ่งมีการแจกเงินหรือเปล่าเราไม่รู้ เรากล่าวหาไม่ได้ เพียงแต่เราเห็นชัดเจนว่าเมื่อวันที่ 19 พรรคเพื่อไทยไปตั้งเต็นท์ มีน้ำอาหารบริการเหมือนไปช่วยดูแลเด็กๆ ด้วยความห่วงใย เมื่อคุณทักษิณออกมาพูด พรรคเพื่อไทยตั้งเต็นท์ คนของพรรคเพื่อไทยพูดสนับสนุนการชุมนุม บนเวทีมีการพูดถึงเสื้อแดง แม้แต่เพนกวินก็บอกว่าวันนี้เขาจะดูแลเสื้อแดง ทั้งหมดนี้ก็เลยทำให้เห็นว่าเป็นการชุมนุมของพรรคส้มหรือพรรคแดงกันแน่""ถ้าวิเคราะห์ตามสถานการณ์ สองฝ่ายเป้าหมายต่างกัน ถ้าเป็นเสื้อแดง เขาอยากให้เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ฉะนั้นเป้าหมายเขาไปไม่ไกลไปกว่าให้พลเอกประยุทธ์ลาออก และให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล แต่สำหรับอีกกลุ่มเขาไปไกลกว่าการให้พลเอกประยุทธ์ลาออก เขาต้องการไปถึงระดับที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ต้องการล้มล้างสถาบัน ตรงนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนมาร่วมชุมนุมหรอมแหรมมาก มีหลายคนเขาเห็นด้วยกับการเรียกร้อง 3 ข้อ แต่ปรากฎก่อนวันชุมนุมเพนกวินเขาพูดชัดเจนว่าเขาจะไม่ลดเพดานเรื่องการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน ซึ่งวันที่ 10 ส.ค. ที่ธรรมศาสตร์นั้น หลายคนเห็นแล้วว่าเรื่องจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันไปไกลเกินกว่าที่เขาจะรับได้""เมื่อบอกว่าจะไม่ลดเพดาน หลายคนก็บอกว่าไม่เอาด้วยแล้ว เพนกวินบอกว่าจะจัดให้แบบเบิ้มๆ คนก็รู้สึกว่าข้อเรียกร้อง 10 ข้อที่ธรรมศาสตร์มันก็เบิ้มพอแล้ว พอบอกจะจัดให้เบิ้มๆ เฮ้ย เขาจะพูดยังไง จาบจ้วงแค่ไหน คนเลยมาน้อย พี่ว่าหนึ่งเด็กก็ฉลาดรู้ด้วยตนเอง ว่าถ้ามาอาจติดคุกเสียอนาคต สองบางคนพ่อแม่อาจพูดจาให้ฟัง หลังเคยพูดกันไม่รู้เรื่องมานาน รอบนี้อาจพูดรู้เรื่องเพราะชี้ให้เห็นเลยว่าเจตนาของกลุ่มเพนกวินต้องการอะไร เด็กๆ เลยออกมากันน้อย สามหลังเพนกวินพูดมากมาย รุ้งพูดมากมาย หลายคนเริ่มไม่สบายใจ ไม่อยากมีส่วนร่วมตรงนั้น หลายคนก็เลยกลับบ้าน และพีคสุดๆ ตอนคืนวันที่ 19 เราน่าจะเห็นคน 3 หมื่นคนได้ แต่พอปักหมุดตอน 6 โมงเช้าพี่ว่าไม่น่าเกิน 5 พัน พอเขาบอกว่าเขามีบิ๊กเซอร์ไพรส์ 6 โมงกับ 8 โมง เขาจะไปทำเนียบขององคมนตรี ก็ชื่นชมเขาอย่างนะ เขาบอกว่าผู้ชุมนุมอย่าตามเขาไป เขาจะเป็นตัวแทนยื่นหนังสือ แต่ปรากฎว่าคนเป็นตัวแทนเขาขออ่าน การที่เขาได้อ่านเขาคิดว่าเขาชนะแล้ว แต่พอฟังใน 8 ข้อนั้น ทุกคนนำเสนอได้แค่ 7 ข้อ ข้อ 8 ไม่มีใครกล้าพูด""ทีนี้เขาก็ประกาศชัยชนะ ถามว่าชัยชนะเขาคืออะไร หนึ่งเขาเข้าธรรมศาสตร์ที่ไม่ให้เข้าได้ สองเขาปักหมุดได้ที่สนามหลวง สามเขาสามารถยื่นหนังสือและมีข้อเรียกร้อง 8 ข้อ สามข้อนี้เขาคิดว่าเป็นชัยชนะ แต่หลายคนบอกว่าไม่ใช่ หนึ่งคุณไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไร สองรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง ที่คุณจะสามารถสร้างวาทกรรมให้เกิดความคุกคามได้ สามรัฐบาลดูแลเป็นอย่างดี ตำรวจที่ออกมาไม่ได้แสดงอาการใดๆ ที่จะคุกคามหรือทำร้าย เมื่อเป็นเช่นนี้ ม็อบจึงต้องหยุดไปในเวลา 9 โมงกว่าของวันที่ 20 เพราะไปต่อไม่ได้"ทุกการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้น คุณทักษิณอยู่เบื้องหลังมั้ย?"อย่าไปกล่าวหาเขาสิ เอาเป็นว่าเขาออกมาพูดก็แล้วกัน แต่การที่เขาพูดแล้วมีใครออกมาขานรับยังไง ตรงนั้นก็แค่สันนิษฐานเอา กล่าวหาเขาไม่ได้ค่ะ"

"ถ้าวิเคราะห์ตามสถานการณ์ สองฝ่ายเป้าหมายต่างกัน ถ้าเป็นเสื้อแดง เขาอยากให้เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ฉะนั้นเป้าหมายเขาไปไม่ไกลไปกว่าให้พลเอกประยุทธ์ลาออก และให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล แต่สำหรับอีกกลุ่มเขาไปไกลกว่าการให้พลเอกประยุทธ์ลาออก เขาต้องการไปถึงระดับที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ต้องการล้มล้างสถาบัน ตรงนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนมาร่วมชุมนุมหรอมแหรมมาก มีหลายคนเขาเห็นด้วยกับการเรียกร้อง 3 ข้อ แต่ปรากฎก่อนวันชุมนุมเพนกวินเขาพูดชัดเจนว่าเขาจะไม่ลดเพดานเรื่องการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน ซึ่งวันที่ 10 ส.ค. ที่ธรรมศาสตร์นั้น หลายคนเห็นแล้วว่าเรื่องจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันไปไกลเกินกว่าที่เขาจะรับได้""เมื่อบอกว่าจะไม่ลดเพดาน หลายคนก็บอกว่าไม่เอาด้วยแล้ว เพนกวินบอกว่าจะจัดให้แบบเบิ้มๆ คนก็รู้สึกว่าข้อเรียกร้อง 10 ข้อที่ธรรมศาสตร์มันก็เบิ้มพอแล้ว พอบอกจะจัดให้เบิ้มๆ เฮ้ย เขาจะพูดยังไง จาบจ้วงแค่ไหน คนเลยมาน้อย พี่ว่าหนึ่งเด็กก็ฉลาดรู้ด้วยตนเอง ว่าถ้ามาอาจติดคุกเสียอนาคต สองบางคนพ่อแม่อาจพูดจาให้ฟัง หลังเคยพูดกันไม่รู้เรื่องมานาน รอบนี้อาจพูดรู้เรื่องเพราะชี้ให้เห็นเลยว่าเจตนาของกลุ่มเพนกวินต้องการอะไร เด็กๆ เลยออกมากันน้อย สามหลังเพนกวินพูดมากมาย รุ้งพูดมากมาย หลายคนเริ่มไม่สบายใจ ไม่อยากมีส่วนร่วมตรงนั้น หลายคนก็เลยกลับบ้าน และพีคสุดๆ ตอนคืนวันที่ 19 เราน่าจะเห็นคน 3 หมื่นคนได้ แต่พอปักหมุดตอน 6 โมงเช้าพี่ว่าไม่น่าเกิน 5 พัน พอเขาบอกว่าเขามีบิ๊กเซอร์ไพรส์ 6 โมงกับ 8 โมง เขาจะไปทำเนียบขององคมนตรี ก็ชื่นชมเขาอย่างนะ เขาบอกว่าผู้ชุมนุมอย่าตามเขาไป เขาจะเป็นตัวแทนยื่นหนังสือ แต่ปรากฎว่าคนเป็นตัวแทนเขาขออ่าน การที่เขาได้อ่านเขาคิดว่าเขาชนะแล้ว แต่พอฟังใน 8 ข้อนั้น ทุกคนนำเสนอได้แค่ 7 ข้อ ข้อ 8 ไม่มีใครกล้าพูด""ทีนี้เขาก็ประกาศชัยชนะ ถามว่าชัยชนะเขาคืออะไร หนึ่งเขาเข้าธรรมศาสตร์ที่ไม่ให้เข้าได้ สองเขาปักหมุดได้ที่สนามหลวง สามเขาสามารถยื่นหนังสือและมีข้อเรียกร้อง 8 ข้อ สามข้อนี้เขาคิดว่าเป็นชัยชนะ แต่หลายคนบอกว่าไม่ใช่ หนึ่งคุณไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไร สองรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง ที่คุณจะสามารถสร้างวาทกรรมให้เกิดความคุกคามได้ สามรัฐบาลดูแลเป็นอย่างดี ตำรวจที่ออกมาไม่ได้แสดงอาการใดๆ ที่จะคุกคามหรือทำร้าย เมื่อเป็นเช่นนี้ ม็อบจึงต้องหยุดไปในเวลา 9 โมงกว่าของวันที่ 20 เพราะไปต่อไม่ได้"ทุกการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้น คุณทักษิณอยู่เบื้องหลังมั้ย?"อย่าไปกล่าวหาเขาสิ เอาเป็นว่าเขาออกมาพูดก็แล้วกัน แต่การที่เขาพูดแล้วมีใครออกมาขานรับยังไง ตรงนั้นก็แค่สันนิษฐานเอา กล่าวหาเขาไม่ได้ค่ะ"