ส่วนอาการของลูกช้างก่อนเสียชีวิต ได้เริ่มทรุดหนักตั้งแต่เวลา 8.00 น.โดยมีอาการหายใจลำบาก เยื่อเมือก ซีด ทีมสัตวแพทย์พยายามช่วยเหลือ ในขณะทางเจ้าหน้าที่ได้ยกพยุงลูกช้างขึ้น จากนั้นลูกช้างมีอาการท้องอืดขึ้นเรื่อยๆกดการหายใจ ทางสัตวแพทย์จึงได้ทำการสวนทวารกระตุ้นการขับแก๊ส กระทั่งเวลา 9.27 น.ลูกช้างเริ่มหยุดการหายใจจึงมีการให้ยากระตุ้นการหายใจ และปั๊มหัวใจจน จนกระทั่งเวลา 9.45 น. ไม่พบการตอบสนอง ของลูกช้างป่า และเสียชีวิต ในที่สุด
อย่างไรก็ตามหลังข่าวการล้มของลูกช้างน้อยที่น่าสงสารเชือกนี้เริ่มแพร่กระจายทำให้ประชาชนซึ่งเป็นแฟนคลับด้วยความน่ารักเอ็นดูและความลูกช้างกำพร้าแม่เชือกนี้ถึงกับช็อคและพากันแสดงความเสียใจในขณะที่มีเสียงตำหนิและสวดยับทางอุทยานฯที่ปิดกั้นการสื่อสารและรับรู้ความเคลื่อนไหวของลูกช้างมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกที่พบกระทั่งวันสุดท้ายที่ลูกช้างเสียชีวิตนอกจากนี้ยังปิดกั้นการเปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชนอีกด้วย
ส่วนประเด็นสาเหตุลูกช้างพลัดหลงนั้นแม้ก่อนหน้านี้นายสุทินพรหมปลัดหัวหน้าอุทยานฯน้ำหนาวจะปฎิเสธว่าไม่มีสิ่งบ่งชี้มาจากการถูกล่าและทำร้ายแม่ช้างเอาลูกช้างก็ตามแต่ทางผู้นำหมู่บ้านในตำบลใกล้เคียงที่มีฝูงช้างป้วนเปี้ยนหากินไปมาในพื้นที่ต่างก็สันนิษฐานและค่อนข้างปักใจเชื่อว่ามาจากปมการล่าหรือทำร้ายแม่ช้างเอาลูกโดยพบผิดสังเกตุที่จู่ๆลูกช้างจะพลัดหลงมาอยู่ที่ป่าข้าวโพดโดยไม่พบร่องรอยแม่ช้างและฝูงในรัศมีราว3-4กิโลเมตรแต่อย่างใดรวมทั้งพฤติกรรมช้างแม่ลูกอ่อนและฝูงช้างหากลูกช้างพลัดหลงจะช่วยกันตามหาและร้องเรียกลูกช้างจนลั่นป่าขณะเดียวกันทางอุทยานฯยังกำชับชาวบ้านไม่ให้ข้อมูลและปิดกั้นการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนมาโดยตลอด
ต่อมาในเช้าวันที่17กันยายนทางอุทยานฯพร้อมทีมสัตวแพทย์ยังเคลื่อนย้ายลูกช้างอีกครั้งไปที่คอกชั่วคราวโรงรถณที่ทำการอุทยานฯน้ำหนาวหลังสังเกตุเห็นลูกช้างเริ่มมีอาป่วยและเกิดอาการอ่อนเพลียกระทั่งตัองมีการให้น้ำเกลือลูกช้างจากนั้นในช่วงเช้าวันที่19กันยายนลูกช้างจะเกิดอาการทรุดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา