svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เอกชนกลัวชุมนุมยืดเยื้อ-รุนแรงทำศก.พัง

19 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เอกชนห่วงมือที่สามทำสถานการณ์ชุมนุม 19-20 ก.ย. นี้ บานปลาย รุนแรง ทำเศรษฐกิจไทยเสียหายประเมินค่ามิได้ ซ้ำเติมโควิด-19 ที่ทำกิจกรรมต่างประเทศหยุดชะงัก หากกิจกรรมในประเทศหยุดชะอีกอีก ทำการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะไม่มีทางออก ด้านนักวิชาการประเมินตัวเลขเสียหายหากรุนแรงกระทบจีพีพีปีนี้ติดลบเพิ่ม 0.25-0.5%

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชารองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ (สรท.)กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 19-20 กันยายน 2563ที่กำลังเกิดขึ้นนั้นภาคเอกชนมีความเป็นห่วงกรณีหากเกิดมือที่สามทำให้สถานการณ์ชุมนุมยืดเยื้อ บานปลายและมีความรุนแรง จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเสียหายอย่างหนัก และประเมินค่ามิได้เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยได้รับความเสียหายจากผลกระทบโควิด-19ที่ยืดเยื้ออยู่แล้ว ทำให้การทำกิจการกับต่างประเทศไม่สามารถทำได้หากเกิดการชุมนุมยืดเยื้อ บานปลาย และส่งผลให้การทำกิจกรรมภายในประเทศไม่ได้ก็จะสร้างความเสียหายในทุกด้าน และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยจะไม่มีทางออก





ทั้งนี้ภาคเอกชนต้องการรัฐบาลเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ยืดเยื้อ บานปลาย เพราะหากจบลงแค่ 2 วันก็ไม่มีความเสียหายเพิ่มขึ้น ดังนั้นรัฐบาลควรหาวิธีดูแล รับฟังทุกกลุ่มเพื่อให้เกิดความสงบ และใช้หลักประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหา







"การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ผ่านมามีทั้งคนได้และคนเสียก็ต้องทำให้ทุกอย่างรอบด้าน และได้รับความช่วยเหลือซึ่งการชุมนุมครั้งนี้ก็มีความไม่พอใจในหลายเรื่องทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมือง ดังนั้นการเปิดเวทีรับฟังว่าเรื่องใดทำได้ก่อนหลังน่าจะเป็นทางออกที่ดีสุด"นายวิศิษฐ์ กล่าว







ด้านนายสุพันธ์ มงคลสุธีประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การชุมนุนใหญ่วันที่ 19-20กันยายนนี้ภาคเอกชนจะติดตามสถานการณ์ชุมนุมอย่างใกล้ชิดโดยเสนอใหทั้งสองฝ่ายถอยคนละก้าว และรัฐบาลควรเปิดเวทีเจรจาหาทางออกร่วมกันอย่างใช้ความรุนแรง หรือแบ่งฝ่าย เพราะไม่เช่นนั้นสถานการณ์ความขัดแย้งก็ไม่มีวันจบ







"ส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ส่วนการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความเรียบร้อยของรัฐบาลก็มองว่าเพื่อเป็นการป้องกันสถานที่ไม่ให้ได้รับความเสียหายพร้อมเชื่อว่าจะไม่มีการปะทะรุนแรงและสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเหมือนการชุมนุมในอดีต" นายสุพันธ์กล่าว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ได้ประมินผลกระทบเศรษฐกิจไทยเบื้องต้นกรณีที่มีการชุมทางการเมืองวันที่ 19-20 ก.ย. นี้ ยืดเยื้อและมีความรุนแรง จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบเพิ่มอีก 0.25-0.5% ส่วนปีหน้าเศรษฐกิจจะขยายตัวลดลง 0.5-1% แต่หากการชุมนุมยืดเยื้อเป็นไปด้วยความสงบ ก็อาจกระทบเศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบเพิ่ม 0.1% แต่หากชุมนุมไม่ยืดเยื้อก็แทบจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

เกาะติดสถานการณ์ #19กันยาทวงอํานาจคืนราษฏร อย่างใกล้ชิด

logoline