svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

โควิด-19 รอบใหม่ในเมียนมาอันตรายต่อชีวิตหนุ่มสาว

18 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในเมียนมายังคงเลวร้ายลง โดยมีผู้เสียชีวิตในวันเดียวมากถึง 20 ราย ทำให้ยอดสะสมทะลุ 60 ราย และเชื้อไวรัสโคโรนาที่ระบาดในระลอกใหม่นี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ แพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่ารอบแรก และเป็นอันตรายต่อชีวิตวัยหนุ่มสาวมากกว่า

โควิด-19 รอบใหม่ในเมียนมาอันตรายต่อชีวิตหนุ่มสาว

กระทรวงสาธาณสุขและกีฬา รายงานเช้าวันนี้ว่า มีผู้ได้รับการยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 256 คนบวกกับ 149 คนที่รายงานเมื่อคืนวาน ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 4,299 คน นอกจากนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 รายในเช้าวันนี้ บวกกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันสูงสุดในวันเดียว 20 รายเมื่อวาน ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 61 ราย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ที่เริ่มขึ้นในรัฐยะไข่เมื่อวันที่ 16 ส.ค.มีอันตรายต่อชีวิตวัยหนุ่มสาวมากกว่า โดยจำนวน 40% ของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีและติดเชื้อโควิด-19 ล้วนเสียชีวิตด้วยอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

โควิด-19 รอบใหม่ในเมียนมาอันตรายต่อชีวิตหนุ่มสาว

นายแพทย์ ขิ่น ขิ่น จี อธิบดีกรมป้องกันและควบคุมโรคติดต่อกลาง ระบุว่า ในการระบาดระลอกแรกที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมี.ค. มีผู้เสียชีวิตเพียง 6 ราย และ 80% ของผู้เสียชีวิตมีอายุเกินกว่า 60 ปี ขณะที่ในระลอกสอง 60% ของผู้เสียชีวิตมีอายุเกินกว่า 60 ปี และ 40% มีอายุต่ำกว่า 60 ปี

นอกจากนี้เมื่อวันพฤหัสบดีมีรายงานเด็กหญิงวัย 13 ปีเสียชีวิตด้วยอาการปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเธอมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับเลือด

โควิด-19 รอบใหม่ในเมียนมาอันตรายต่อชีวิตหนุ่มสาว

ดร.ขิ่น ขิ่น จี ระบุด้วยว่า ไวรัสโคโรนาที่ระบาดขณะนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่มีอัตราแพร่เชื้อสูงกว่า และผู้เสียชีวิตด้วยโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้สูงอายุ นอกจากนี้แพทย์อีกคน เตือนว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ไวรัสจะอ่อนแอลงหลังการระบาดระลอกแรก

ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา เตือนว่า ไวรัสขณะนี้สามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่า แต่ความรุนแรงยังคงเท่าเดิม พร้อมกับย้ำให้ทุกคนระมัดระวังเพราะทุกคนมีโอกาสติดเชื้อไม่ว่าจะสุขภาพแข็งแรงดีหรือมีโรคประจำตัว และยกตัวอย่างการระบาดระลอกใหม่ในยุโรปมีวัยหนุ่มสาวสุขภาพแข็งแรงเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 มากขึ้น

logoline