(15 กันยายน 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐได้มีการประชุมส.ส.พรรค ประจำสัปดาห์ โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรค ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยได้กำชับ ส.ส.พรรคให้เข้าร่วมประชุมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ในวาระ 2 และ 3 ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ย.นี้ อย่างพร้อมเพรียงและขอให้อยู่ภายในบริเวณห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตลอดทั้ง 3 วัน พร้อมทั้งได้ชี้แจงว่า ล่าสุดจะยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณปี 2564 ได้ทันตามช่วงเวลา โดยจะใช้งบเก่าในปี 2563 ไปก่อน
ส่วนการชุมนุมของนักศึกษาในวันที่ 19 ก.ย.นั้น ส่วนตัวคิดว่าภาคส่วนทางการเมืองในหลายด้าน มีความเป็นห่วงในสถานการณ์ว่าจะไปถึงจุดไหน ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะรุนแรงหรือไม่อย่างไร และเท่าที่ได้พูดคุยกับส.ส.ในพื้นที่ และหลายภาคส่วน พบว่า ยังไม่มีรายงานข่าวจะมีการเดินทางมาจากต่างจังหวัดเป็นจำนวนมากตามที่มีข่าวออกมา
"การชุมนุมถือเป็นสิทธิของนักเรียน นิสิต นักศึกษา หากเป็นการชุมนุมที่ไม่เกินกรอบของกฎหมาย ก็ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่จะบานปลาย เราในฐานะพรรคการเมือง ก็ต้องช่วยกันดูแล ประคับประครองสถานการณ์ ที่จะเกิดขึ้น การเมืองเราต้องช่วยกันแก้ไข หันหน้าเข้าหากัน สามัคคีกันอย่างจริงจัง นำพาพรรคการเมืองของเรา ระบอบประชาธิปไตยของเรา และรัฐสภาของเราให้อยู่ได้" นายอนุชา กล่าว
ทั้งนี้ แม้ส่วนตัวจะเคยถูกตัดสิทธิทางการเมืองรวมๆแล้วเกือบ 10 ปี แต่ก็ไม่เคยคิดลงถนน เพราะการเมืองบนท้องถนนวันหนึ่ง มันก็เหมือน"เขาลงได้ เราก็ลงได้" ไม่มีวันจบสิ้น และวันข้างหน้าไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่ารักประชาธิปไตย ดังนั้น นักการเมืองคนใด ที่ใช้เวทีเพื่อเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ คิดว่าคนๆนั้นจะต้องพิจารณาตัวเองว่ารักระบอบประชาธิปไตยจริงหรือไม่ หากกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์วันหนึ่งก็จะเกิดกลียุค ที่ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำแย่งชิง
ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2564 ในวาระ2 ผู้ที่มีสิทธิในการอภิปราย คือ ผู้ที่แปรญัตติเท่านั้น จะไม่ปล่อยให้อภิปรายแบบวาระ 1 จะต้องตรงประเด็น และเสร็จภายในเวลา 21.00 น. ของวันที่ 18 ก.ย.นี้ จะได้ส่งให้วุฒิสภา (ส.ว.) พิจารณาต่อในวันที่ 22 ก.ย. เนื่องจากวันที่ 23-24 ก.ย. ทางสภาฯ จะพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560