"อ.สุชาติ"ศิลปินแห่งชาติจี้มธ.เปิดพื้นที่จัดชุมนุม19ก.ย.

(15 กันยายน 2563) นายสุชาติ สวัสดิ์ศรีศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2554 ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้ายื่นหนังสือและข้อเรียกร้อง ต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในนามนักเขียน บรรณาธิการ ศิลปิน สื่อมวลชนและประชาชน ผู้เชื่อมั่นในหลักการประชาธิปไตย หรือ ในเพจ "WAY" พร้อมรวบรวมรายชื่อ ประชาชน 1,964 รายชื่อ มอบให้กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมี นางณัฐยา มิตรมูลพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองบริหารศูนย์ท่าพระจันทร์ มารับหนังสือแทน

โดยนายสุชาติ อ่านแถลงการณ์ก่อนยื่นรายชื่อ พร้อมย้ำถึงข้อเรียกร้องทางการเมือง 3 ข้อ ได้แก่ 1.หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยุบสภา และความฝันในการอยู่ร่วมกับสถาบันฯ รวมถึงความเคลื่อนไหวให้ปฏิรูประบบการศึกษา ทั้งหมดนี้นอกจากจะไม่ได้มีเนื้อหาส่วนใดละเมิดกฎหมายแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงเจตจำนงของคนรุ่นใหม่ ความใฝ่ฝันที่จะเห็นสังคมดีขึ้นกว่าเดิม จึงขอเรียกร้องให้รัฐและผู้เห็นต่าง โต้แย้งด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง และเหตุผล หยุดให้ร้ายบิดเบือน หยุดละเมิดเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ด้วยวิธีการและท่วงทำนองต่ำทราม

2.ตามที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกาศไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในการชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. 2563 โดยมิได้ระบุเหตุผลชัดเจน มากไปกว่าถ้อยคำกว้างๆ ว่า กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มิได้ดำเนินการขออนุญาตตามเงื่อนไขมหาวิทยาลัย และในฐานะที่ตนมีความผูกพันกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทในการจำหลักเป็นหลังพิง ให้ที่อยู่ที่ยืนกับผู้คนในระบอบประชาธิปไตย

"เราขอเรียกร้องให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิจารณาทบทวน เปิดพื้นที่ให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชน ได้แสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองอันเป็นเรื่องพื้นฐาน สนับสนุนระบบดูแลความปลอดภัยในการชุมนุม แทนการปิดกั้นผลักไส ให้ออกไปรับความเสี่ยงนอกรั้วมหาวิทยาลัย" นายสุชาติ กล่าว

3.ขอเรียกร้องสื่อมวลชน และขอความร่วมมือจากผู้สนใจติดตามข่าวสาร ให้ออกแรงช่วยกันตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน ร่วมกันยับยั้ง แก้ไข ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ จากกลุ่มคนที่ประสงค์ให้เกิดการเผชิญหน้า ปรารถนาจะให้สถานการณ์รุนแรง เพื่อนำไปสู่การใช้เครื่องมือทางอำนาจนอกระบบ ไม่ว่าจะในรูปแบบการทำรัฐประหาร หรือการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ ซึ่งล้วนแล้วแต่จะนำพาประเทศถอยหลังและตกต่ำยิ่งขึ้น

ส่วนการชุมนุมของนักศึกษาดำเนินการภายใต้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่การที่มหาวิทยาลัยไม่อนุญาต เป็นการผลักนักศึกษาให้ไปเผชิญกับอันตรายนอกมหาวิทยาลัย และเห็นว่ามหาวิทยาลัยต้องเป็นหลังอิงของคนที่ ต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย ดังนั้น ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่า ได้เห็นถึงความหลากหลายทางความคิด แต่การคิดจนเลยเถิดไปถึงการมองว่านักศึกษา บิดเบือนและละเมิดรัฐธรรมนูญ ถือเป็นความเห็นที่เลอะเลือน

"ผมยืนยันว่านักศึกษาไม่ได้เลอะเทอะ แต่มาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมก็ปราศจากอาวุธ มหาวิทยาลัยจึงควรเป็นหลังอิงและดูแลการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงจะเป็นจิตวิญญาณของธรรมศาสตร์อย่างแท้จริง ตามเจตนารมณ์ที่ยืนยันมาโดยตลอด ว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว"ศิลปินแห่งชาติ กล่าว

ส่วนข้อกังวลโดยเฉพาะข้อเรียกร้องสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปสถาบันฯ ส่วนตัวเห็นว่า นักศึกษาไม่ได้ล้มสถาบันฯ แต่ต้องการให้สถาบันฯ มีความงอกงามและสง่างามในโลกสมัยใหม่ เพราะฉะนั้น จึงใช้คำว่าระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งหมายถึงการอยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง

นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ศิษย์เก่ามีความเห็นแตกต่างกันอย่างรุนแรงโดยเฉพาะการจัดการชุมนุม ส่วนตัวเห็นว่าความขัดแย้งทางความคิดเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ขอให้ใช้ตรรกะและเหตุผลใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงอดทนรับฟังซึ่งกันและกัน จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จะไม่สูญเสียไปกว่านี้ ซึ่งส่วนตัวยังเห็นว่าธรรมศาสตร์ในยุคของตนและปัจจุบันอุดมการณ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ตัวบุคคลอาจจะเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงระหว่างการเตรียมยื่นหนังสือ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงมาจากตึก ผ่านวงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชน และเดินออกไปทางด้านหลังตึกโดม ซึ่งตัวแทนที่มารับหนังสือได้ชี้แจงว่าอธิการมีภารกิจ จึงไม่สามารถมารับหนังสือด้วยตนเองได้