svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ท่องเที่ยว

สื่อจีนสำรวจ ‘ท่องเที่ยวไทย’ กับการต่อสู้เพื่ออยู่รอดในยุคโควิด-19

15 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"การท่องเที่ยว" นับเป็นอุตสาหกรรมที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยอย่างมหาศาลมาตลอด แต่วิกฤตโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวต้องเจอผลกระทบอย่างหนัก ทุกฝ่ายจึงจำเป็นต้องปรับแผนและร่วมมือกันเพื่อหาวิธีการในการนำ "รอยยิ้ม" กลับมาสู่คนไทยอีกครั้ง

สำนักข่าวซินหัวของจีน ทำรายงานพิเศษเกี่ยวกับการสำรวจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด-19 โดยมีเนื้อหาดังนี้...ท่ามกลางพื้นที่ตั้งแคมป์ที่รายล้อมด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ "พอล" เจ้าของร้านขายเทียนหอมฉีกยิ้มด้วยความโล่งใจ เมื่อเห็นนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังอุทยานที่ถูกทิ้งร้างนานหลายเดือนจากพิษโควิด-19

เจ้าของร้านวัย 30 ปีคนนี้ ได้รับเชิญให้มาเปิดร้านในงาน "สตีท ฟรี เฟสติวัล" (Stress Free Festival) มหกรรมแห่งความผ่อนคลาย ซึ่งจัดขึ้นโดยหน่วยงานการท่องเที่ยวไทย ณ อุทยานแห่งชาติที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

"ผมเริ่มทำธุรกิจนี้เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 ระบาดพอดี ผมจึงไม่มีเงินเช่าร้าน" ชายผู้ซึ่งตั้งแผงขายของหน้าตาน่ารักที่มีเทียนหอมทำมือวางเรียงราย พร้อมส่งกลิ่นที่หลากหลายกลางผืนป่าบรรยากาศสดชื่นกล่าวกับนักข่าว

"ผมหันมาขายทางออนไลน์แทน แล้วก็ต้องประหลาดใจเพราะยอดขายพุ่งสูงเป็น 3 เท่าของเป้าหมายที่ผมตั้งไว้" พอลให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวซินหัว

"ผมดีใจที่ได้เห็นผู้คนกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง แถมยังเยอะกว่าที่ผมคาดไว้ งานมหกรรมและวันหยุดยาวทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่ จึงเป็นโอกาสดีที่จะตั้งบูธขายของ" ชายผู้ซึ่งสวมหน้ากากอนามัยสีดำ แต่ยังเผยรอยยิ้มออกมาผ่านทางสายตา กล่าวถึงความรู้สึกของตน


งานมหกรรมช่วงหยุดยาวชดเชยสงกรานต์เต็มไปด้วยคอนเสิร์ตหลายเวที แฟชั่นโชว์หน้ากากผ้า และกิจกรรมเวิร์กช็อป เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในท้องถิ่น

ก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเคยได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่รัฐบาลได้ระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

ท่ามกลางสภาพการณ์ที่ไร้นักท่องเที่ยวซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นนี้ รัฐบาลได้ออกแคมเปญเพื่อเติมเต็มช่องว่างและสนับสนุนให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวในประเทศให้ได้มากที่สุด

ลึกเข้าไปท่ามกลางผืนป่าเขียวขจีของเขาใหญ่ สวนมะม่วงแห่งหนึ่งซึ่งปิดไปถึง 2 เดือนจากพิษโควิด-19 กลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

"ยอดจองเริ่มกลับมา เราจึงได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวใหม่ทุกวันโดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวและสุดสัปดาห์ แม้หน้ามะม่วงจะผ่านไปแล้วก็ตาม" วราภรณ์ เจ้าของสวนผลไม้ กล่าวพร้อมรอยยิ้มอันสดใส

"ตอนเราปิด มันเป็นช่วงเก็บเกี่ยวพอดี" เธอกล่าวพร้อมชี้มะม่วงลูกเล็กที่ห้อยอยู่บนต้นให้ผู้สื่อข่าวดู

"เราได้สรรค์สร้างผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมจากมะม่วง เช่น น้ำผึ้งและผลไม้อบแห้ง พยายามใช้เทคโนโลยีการเกษตรรักษาความสามารถในการผลิตหลังเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหลังฤดูมะม่วงผ่านพ้นไป" หญิงเจ้าของธุรกิจกล่าว ครอบครัวของเธอรอดพ้นวิกฤตมาได้อย่างหวุดหวิดโดยไม่ต้องปลดพนักงานแม้แต่คนเดียว

"การขายผ่านทางออนไลน์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศมีส่วนช่วยอย่างมาก ช่วงนี้คือช่วงที่ยากลำบากจริงๆ หวังว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ จะหวนกลับมาได้ในอีกไม่ช้า" หญิงเจ้าของใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลากล่าว


ในทางกลับกัน วิภา เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นที่หมายท่องเที่ยวที่คึกคักของภาคใต้ กลับถูกโรคระบาดพรากรอยยิ้มไป

หากเทียบกับเขาใหญ่ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 3 ชั่วโมงนั้น เกาะพะงันซึ่งตั้งอยู่นอกฝั่งอ่าวไทยและใช้เวลาบินจากกรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง กำลังเผชิญกับสภาพการณ์ที่ตรงกันข้าม

วิภาเผยว่าในช่วงวันหยุด 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. โรงแรมของเธอมีผู้เข้าพักเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น

วิภาบริหารโรงแรมมานานร่วม 30 ปี "เรามีห้องพัก 124 ห้อง และพนักงานมากกว่า 90 คน แต่มีรายได้ตกเดือนละไม่ถึง 200,000 บาท ทุกเดือนตั้งแต่เดือนมีนาคม ลูกค้าของเราประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นต่างชาติ"

เกาะพะงันเป็นที่รู้จักทั้งในกิจกรรม "ฟูลมูนปาร์ตี" และชายหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ เกาะพะงันจึงเป็นสวรรค์เมืองร้อนของบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ด้วยค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักที่มีราคาสูง ทำให้ชาวไทยไม่นิยมมาเที่ยว

"โรคระบาดทำรายได้หายไป หวังว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้ภายในสิ้นปีนี้ ไม่อย่างนั้นเราคงต้องปิดตัว" เจ้าของร้านกล่าวพร้อมรอยยิ้มอันขมขื่น

ณ ประเทศซึ่งได้ชื่อว่าดินแดนแห่งรอยยิ้มแห่งนี้ คนไทยได้สร้างชื่อเสียงอันเป็นที่กล่าวขานในทั้งการดำเนินชีวิตอย่างสนุกสนานและเรียบง่าย โดยมี "รอยยิ้ม" เป็นองค์ประกอบสำคัญ

แม้ว่าเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่รอยยิ้มของคนไทยก็ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อโรคระบาด ทว่าดูเหมือนจะมีบางสิ่งขาดหายไป

"เราต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 คน นับตั้งแต่คลายล็อกดาวน์ เป็นชาวกัมพูชาคนหนึ่งซึ่งโดยสารเครื่องบินส่วนตัวเข้ามาโดยใช้วีซ่าสำหรับผู้พำนักระยะยาว อีกคนหนึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทูตจากเม็กซิโกซึ่งเป็นผู้ถือบัตรอภิสิทธิ์ภายใต้การจัดการพิเศษ" ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าว

ปี 2019 ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 39.8 ล้านคน หรือเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ ด้านททท. คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศในปีนี้อาจดิ่งลงร้อยละ 80 ด้วยปริมาณการจราจรทางอากาศระหว่างประเทศที่ฟื้นตัวเพียงร้อยละ 10 ของช่วงก่อนเกิดการระบาด

เพื่อช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวที่เสียหายหนักและรักษาตำแหน่งงานหลายล้านอัตรา รัฐบาลจึงมีแผนเปิดเกาะภูเก็ตเพื่อเป็นต้นแบบในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา

อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการระบุว่าแผนดังกล่าวประสบปัญหา หลังพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จากในประเทศรายแรกในรอบกว่า 3 เดือน

เขาระบุว่ามาตรการกักตัวที่เข้มงวด ความคิดเห็นของประชาชนที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย และความสามารถในการให้บริการด้านการแพทย์ คือปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา ซึ่งทำให้แผนการเปิดเกาะภูเก็ตล่าช้าออกไป

"ดังนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญกับแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ แต่เราก็พบว่าการท่องเที่ยวในประเทศยังไม่คึกคักอย่างที่คาดแม้รัฐจะอุดหนุนแล้วก็ตาม ประชาชนยังคงชอบการเดินทางระยะสั้นนานไม่เกิน 3 ชั่วโมง สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งจึงไม่อาจสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้" ผู้ว่าการกล่าว

นอกเหนือจากการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศแล้ว ททท. ยังพยายามเสนอข้อเสนอพิเศษด้านการท่องเที่ยวในไทยให้แก่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศกว่า 2 ล้านคน และปัจจุบัน ททท. ยังเป็นคู่สัญญากับอาลีเพย์ (Alipay) และฟลิกกี (Fliggy) แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวจากจีน ในการส่งเสริมแคมเปญการท่องเที่ยวภายในประเทศสำหรับผู้อยู่อาศัยชาวจีน

"เราเชื่อว่าโรคระบาดจะผ่านพ้นไป และการท่องเที่ยวจะกลับมาเฟื่องฟูสักวันหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่ากว่าจะถึงตอนนั้น จะมีธุรกิจอยู่รอดได้มากน้อยแค่ไหน" ผู้ว่าการกล่าว

CR: xinhuathai

logoline