นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าพบนายวิษณุ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ว่า พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ มาทำเนียบรัฐบาล และเข้ามาพบตนบ่อยแต่สื่อมวลชนไม่เจอเอง ส่วนวันนี้เขามารายงาน ข้อราชการที่ตนได้มอบหมายให้ไปปฏิบัติ ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ จะย้ายกลับเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันเดียวกันนี้ได้มาพูดคุยเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ปฎิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลโดยขึ้นอยู่กับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีตนกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง และตน ได้มอบหมายให้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ดูแลงานด้านการรับเรื่องราวร้องทุกข์ เขาจึงมารายงานความคืบหน้าในการปฎิบัติหน้าที่
ส่วนงานที่ตนมอบหมายไปนั้น ขอไม่เปิดเผย และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวที่จะย้ายกลับไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะ พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ไม่เคยพูดเรื่องดังกล่าวกับตน แต่จะพูดกับคนอื่นหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่าอำนาจในการตัดสินใจให้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ กลับเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติคือใคร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ตัดสินใจคือนายกรัฐมนตรี แต่เพียงผู้เดียว เมื่อถามย้ำว่าแล้ว พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ มีโอกาสที่จะโอนย้ายกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าตามช่องทางกฎหมายแล้ว พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ สามารถขอโอนย้ายกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในคำสั่งคสช.ที่ 9/2562 ได้เขียนว่า ผู้ที่เคยถูกคำสั่งให้มาอยู่ในอัตรากำลังชั่วคราว 20 อัตรา ก็ยังให้อยู่ต่อไป จนกว่าปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี โดยรายงานว่าบัดนี้หมดความจำเป็นแล้ว ก็จะได้พิจารณา ดำเนินการอย่างอื่นต่อไป ซึ่งช่องทางก็มีอยู่เช่นนี้ และที่ผ่านมาก็ได้มีคนกลับไปโดยวิธีนี้บ้างแล้ว