"อนุชา"ย้ำรัฐมีเงินจ่าย"คนชรา-ผู้พิการ"แต่ล่าช้าเพราะใช้ข้อมูลเก่า

(14 กันยายน 2563) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีปัญหาการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ ประจำเดือน ก.ย. 2563 ล่าช้า โดยยอมรับว่า การตั้งงบประมาณปี 2563 ข้อมูลจำนวนของผู้สูงอายุ และคนพิการ เป็นข้อมูลของเดือน ก.พ. 2562 ดังนั้น ตัวเลขการชำระเงินและจำนวนคนที่ได้รับเบี้ย จึงไม่ตรงกับความเป็นจริงโดยเบี้ยของคนพิการ เมื่อเดือนก.พ. 2562 มีจำนวน 1.8 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขใหม่ในเดือน ก.ย. 2563 ต้องชำระเพิ่มขึ้นมา 2.6 แสนคน

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ขณะที่ผู้สูงอายุยอดในเดือน ก.พ. 2562 มีจำนวน 8.7 ล้านคน ขณะที่เดือนก.ย. 2563 มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 1.8 แสนคน ดังนั้น จึงสะท้อนให้เห็นว่า ตัวเลขจำนวนผู้ได้สิทธิเพิ่มขึ้น ส่วนที่เกิดความล่าช้านั้น นอกจากจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังไม่ได้ใช้ระบบอีย์เพย์เมน แต่พบว่าปีนี้ได้เริ่มใช้ระบบอีย์เพย์เมน จะทำให้ประชาชนรับเงินเข้าบัญชี จากกรมบัญชีกลางได้ทันที ประมาณร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รับผิดชอบ โดยใช้เงินสดหรือมารับด้วยตัวเอง

"ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะไม่มีงบประมาณ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนระบบและวิธีการชำระเงิน รวมทั้งจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าหลังจากปี 2563 ที่เปลี่ยนระบบแล้ว เมื่อผู้ลงทะเบียนได้รับสิทธิแล้ว ก็จะได้รับเงินทันทีในเดือนถัดไป และจะไม่เกิดความล่าช้าอีก" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ส่วนการใช้งบประมาณ 2564 อาจไม่ทันใช้ในเดือน ต.ค.นั้น ซึ่งขณะนี้ร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาฯ ในวาระที่ 2 และ 3 โดยสัปดาห์นี้ หากเกิดความล่าช้าก็ไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ ส่วนการชี้แจงรายละเอียด จะดำเนินการในวันพรุ่งนี้ (15ก.ย.) อีกครั้ง หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เมื่อสำนักงบประมาณจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมครม.เพื่อรับทราบ เพราะจะต้องมีการใช้งบประมาณ 2563 ไปพลางก่อน