(12 กันยายน 2563) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ส่วนตัวประเมินการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ อาจจะมีผู้ร่วมชุมนุมถึง 1 แสนคน แต่ก็มีรายงานข่าวว่า อาจจะมีสถานการณ์ต่างๆ ดังนั้น ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ และ ส.ส.พรรคก้าวไกล จะจับตาการชุมนุม โดยจะมี ส.ส.เข้าไปร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ เพราะมีความห่วงใยเรื่องของสถานการณ์ความรุนแรง โดยเชื่อว่าตลอดการชุมนุมที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมไม่เคยมีประวัติสร้างความรุนแรงในการชุมนุม แต่เห็นว่าคนที่มีความสามารถจะสร้างความรุนแรงได้ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะรู้ดีที่สุด โดยเรียกร้องให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีประสบการณ์ที่เคยเป็นแกนนำการชุมนุม ว่าแม้จะมีการปล่อยข่าวเรื่องของความรุนแรง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ใด และเชื่อว่าในการชุมนุมครั้งนี้ แม้จะมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก แต่หากเจ้าหน้าที่รัฐดูแลอย่างเข้มงวด จะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงอะไร
นอกจากนี้ เห็นว่าในฐานะกมธ.กฎหมายฯ จะต้องให้ความสำคัญในประเด็นสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ที่เชื่อว่าไม่ควรดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ตามข้อกล่าวหามาตรา 116 ซึ่งจะนำเข้าหารือในกมธ.ต่อไป และหากมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน กมธ.จะเข้าไปดูแล และกมธ.พร้อมปกป้องประชาชน เพราะเชื่อว่าผู้ชุมนุมยังจัดการชุมนุมที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) รวมถึงในญัตติอื่นๆ ที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ยื่นญัตติไปจะได้รับการตอบรับจากสมาชิกรัฐสภาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ด้วย และย้ำว่าทั้งรัฐบาล ส.ส. และ ส.ว. จะให้ความสำคัญกับสถานการณ์การเมืองที่มีการชุมนุมที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสนามหลวง โดยเชื่อว่าส.ว.ไม่กล้าตีตกญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าแต่ละญัตติ ส.ว.จะโหวตอย่างไร