โดย น.ส.กัลยา กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ กมธ.ดีอีเอส มาดูแนวทางและวิธีจัดระเบียบสายสื่อสาร เพื่อติดตามการจัดระเบียบ รวมถึงสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และต้องการให้ผู้ประกอบการคืนความสวยงามแก่พื้นที่ และเพื่อให้ได้คุณภาพสัญาณของการสื่อสารที่ดีขึ้น โดยแผนการจัดระเบียบสายสื่อสาร มี 3 เส้นทาง คือ ถนนเทศบาล 4 ถนนพิชัยณรงค์สงคราม และถนนสุดบรรทัด ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาแก่จังหวัด ทั้งนี้นอกจากการจัดระเบียบแล้ว ในอนาคตกมธ.หวังว่าจะมีการนำสายสื่อสารลงใต้ดินได้ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยกมธ.ดีอีเอส ยินดีให้ความร่วมมือ และหวังว่าจะสามารถจัดระเบียบ สร้างความสวยงาม
"อยากให้สระบุรีเป็นเมืองหลักในการท่องเที่ยว มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่ใช่เป็นแค่เมืองที่คนผ่านเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ความต้องการประชาชนนั้น นอกจากต้องการให้จัดระเบียบสายสื่อสารแล้ว ยังหวังให้นำสายลงดิน เพราะที่ผ่านมาหลายแห่งมีสายที่รกรุงรัง บางแห่งก็เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในพื้นที่และผู้สัญจรไปมา แต่หากวันนี้เรายังไม่มีงบประมาณเพียงพอ การจัดระเบียบให้เรียบร้อยไปก่อนก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี หากวันหน้ามีงบประมาณนำสายลงดินได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก" น.ส.กัลยา กล่าว
ขณะที่ นายสรอรรถ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการประชุมหารือร่วมกันของทุกภาคส่วน ตนอยากเห็นการทำงานร่วมกัน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการโยนกันไปโยนกันมา ตนเข้าใจผู้ประกอบการ หากจำจัดระเบียบสายเองก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ตรงนี้ทุกอย่างต้องคุยกันให้จบ ไม่เช่นนั้นคนที่เดือดร้อนก็คือพี่น้องประชาชน และหากในอนาคตมีการนำลงดิน ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก ซึ่งก็คงต้องมีการวางมาตรการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น กมธ.ดีอีเอส ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสระบุรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจบุคคลากรโรงพยาบาลสระบุรี หลังจากที่ถูกแฮกเกอร์แฮกข้อมูลและเรียกค่าไถ่ข้อมูลของคนไข้ จากนั้น คณะกมธ.ได้เดินตรวจความเรียบร้อยของสายไฟบริเวณถนนเทศบาล 4 ตั้งแค่หน้าโรงพยาบาลสระบุรี ไปยัง ถนนพิชัยณรงค์สงคราม และถนนสุดบรรทัด โดยมีหน่วยงานต่างๆร่วมตรวจสอบด้วย