svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"วันนอร์"ยกอดีตนายกฯสอน"บิ๊กตู่"จะเลือกลงอำนาจแบบไหน

09 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"วันมูหะมัดนอร์ มะทา" จี้ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมยก "ป๋าเปรม" เป็นตัวอย่างการลงจากอำนาจที่สวยและสง่างาม ย้ำ "บิ๊กตู่" อย่าหูเบาฟังคนประจบให้อยู่ต่อ

(9 กันยายน 2563) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ได้กล่าวท่อนหนึ่งในการอภิปราย ว่าตนได้อยู่ในสภาแห่งนี้มานาน ได้เห็นการเป็นนายกรัฐมนตรี การปฏิวัติรัฐประหาร และการลงจากอำนาจของผู้นำหลายคนที่ผ่านมา จึงอยากจะขอยกตัวอย่างเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้เห็น ว่าจะลงจากอำนาจแบบใดดีที่ไม่ต้องไปเจ็บเนื้อเจ็บตัว และลงอย่างสง่างาม โดยขอยกตัวอย่างของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตรัฐบุรุษและประธานองคมนตรี ที่เป็นนายกฯ ในช่วงปี 2523


นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวต่อว่าซึ่งขณะนั้นเมื่อบริหารประเทศผ่านไประยะหนึ่ง ก็มีประชาชนออกมาเรียกร้องต้องการให้มีประชาธิปไตยเต็มใบ และพล.อ.เปรม ก็ได้รับฟังเสียงเรียกร้องเหล่านั้น ด้วยการที่ปฏิเสธผู้นำพรรคการเมือง ที่มาขอให้เป็นนายกฯต่อไปว่า "ผมพอแล้ว" และก็ได้ลงจากอำนาจ จนได้ดำรงตำแหน่งที่ทรงเกียรติ คือ ประธานองคมนตรี

ทั้งนี้ เมื่อพล.อ.เปรม บริหารประเทศไประยะหนึ่ง ก็มีคนบอกว่าต้องการให้ประเทศปกครองด้วยประชาธิปไตยเต็มใบ ก็เหมือนกับพล.อ.ประยุทธ์ตอนนี้ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ เพราะรัฐธรรมนูญยังให้อำนาจ ส.ว. เหมือนท่านเกรียงศักดิ์ พล.อ.เปรม มาให้ ส.ว.มาเลือกนายกรัฐมนตรีได้ มาออกกฎหมายที่สำคัญได้ ก็เหมือนในปัจจุบันที่กฎหมายปฏิรูปจะต้องผ่านรัฐสภาไม่ได้ผ่านเพียงแค่สภาฯเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อประชาชนจำนวนไม่มากเท่าไหร่เรียกร้องว่าประชาธิปไตยครึ่งใบควรจะหมดไป ควรจะมีประชาธิปไตยเต็มใบ พล.อ.เปรม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ยินเสียงกระซิบนี้ ต่อมาเมื่อมีการเลือกตั้งไปแล้ว ผู้นำพรรคการเมืองทั้งหลายที่สนับสนุน ก็ไปหาพล.อ.เปรม ให้เป็นนายกฯต่อไป

"ท่านเห็นแก่เสียงของประชาชนที่ขอให้เลิกประชาธิปไตยครึ่งใบ จึงบอกว่า "ผมพอแล้ว" และหลังจากนั้น ท่านก็ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และลงอย่างสง่างาม สามารถจะดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติของประเทศนี้ถึงเป็นประธานองคมนตรี" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว


นอกจากนี้ ขอยกตัวอย่างนายกฯ ที่มาจากผู้นำเหล่าทัพ แต่ไม่ได้ปฏิวัติรัฐประหาร เพราะเป็นนายกฯโดยอำนาจของสภาฯ คือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเป็นนายกฯ เมื่อปี 2539 ก็เกิดภาวะต้มยำกุ้งเหมือนกับพลเอกประยุทธ์ที่เป็นนายกรัฐมนตรีในขนาดนี้ที่มีเรื่องของปัญหาโควิด-19 มีเรื่องของเศรษฐกิจถดและจีดีพีก็ลดใกล้เคียงกัน จึงต้องกู้เงินจากต่างชาติ และเช่นเดียวกันมีประชาชนเรียกร้องว่าหมดเวลาของพล.อ.ชวลิตแล้ว ต้องให้คนอื่นเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศทั้งในด้านของเศรษฐกิจและการเมือง มีการจัดเดินม็อบที่สีลมจำนวนไม่มากน่าจะไม่ถึง 10,000 คน จากนั้นพลเอกชวลิตอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลก็ได้มีการประกาศว่าในเมื่อประชาชนต้องการให้คนอื่นเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ ตนขอลาออก

"อีกด้านหนึ่งผมต้องการพูดกับนายกฯ ที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ว่าถ้าไม่ฟังเสียงประชาชน ยังดื้อดึงคิดว่าท่านเก่ง อยู่มา 6 ปีแล้ว หรือขอเป็นต่อไป ตัวอย่างก็มีอยู่ ผู้นำเหล่าทัพที่เป็นนายกฯ แล้วก็ดื้อดึง เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและด้านการเมืองอย่างน้อยพอจะยกตัวอย่าง สองท่านเป็นถึงจอมพล ฉะนั้นผมได้เอาตัวอย่ของผู้นำเหล่าทัพ ที่มีพรรคการเมืองสนับสนุนสองท่าน ที่ลงด้วยดีไม่มีปัญหา และอีกสองคนที่ลงอย่างไม่สวย จึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เลือกเส้นทางที่จะลงโดยวิธีการที่สวย ไม่ต้องถูกขับไล่ ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์"นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

ทั้งนี้ การลาออกลงจากอำนาจมันก็ยุ่งยากตอนเดียวเท่านั้น คือ คนแวดล้อมบอกว่าต้องอยู่ ถ้าไม่อยู่แล้วก็ประเทศชาติจะเสียหาย ตอนนั้นที่จะทำให้ฮึกเหิมว่าเก่งคนเดียว ไม่มีใครเก่ง แต่วันใดที่ตัดสินใจแบบพล.อ.เปรมว่า "ผมพอแล้ว" ตอนนั้นจะมีความสุขที่สุด ลูกหลานก็จะมีความสุข คนรอบข้างที่เยินยอ ก็ไปหาคนอื่นต่อ เพราะว่าหมดอำนาจไปแล้ว อันนี้พูดจากใจจิง ด้วยความปรารถนาดีต่อนายกฯ ว่าหมดเวลาแล้ว ควรจะลาออกอย่างท่านพล.อ.เกรียงศักดิ์ หรือถอยจากการเมืองอย่างพล.อ.เปรม หรือลาออกอย่างพล.อ.ชวลิต

"ท่านอย่าเอาตัวอย่างนายกรัฐมนตรีที่ตกจากเรื่องของความไม่สวยและถูกบันทึกประวัติศาสตร์ไม่สวย ยังมีเวลาสำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ผมอยากให้โอกาสท่านตัดสินใจ แต่ตอนนี้ถ้าไปถามคนทั่วประเทศ ไปถามคนที่เขาจะมาร่วมกันบอกให้ท่านออกไปในวันที่ 19 ก.ย.นี้ หรือต่อๆไป วันนี้เขาก็พูดเหมือนกันว่าหมดเวลาของนายกรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้น หวังว่าบ้านเมืองเราจะดีด้วยการเสียสละของพ่อผู้นำของพวกเรา" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวทิ้งท้าย

logoline