โดย น.ส.กัลยา กล่าวว่า วันนี้ (5ก.ย.) คณะกมธ.ได้ลงพื้นที่ จ.น่าน เพื่อตรวจดูความเสียหาย ให้กำลังใจชาวบ้านและได้นำถุงยังชีพของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส มามอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นการเยียวยาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ และยังได้มาดู ศูนย์ USO Net ที่จะช่วยให้คนที่อยู่ห่างไกล ได้มีอินเตอร์เน็ตไว้ใช้เพื่อค้นหาข้อมูลในการเรียนรู้และนำมาประยุกต์ ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำได้
น.ส.กัลยา กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ห่างไกล การสืบค้นข้อมูลทั้งการเรียนการสอนของเด็กๆและครูจะช่วยเสริมสร้างทักษะใหม่เป็นการเปิดโลกกว้างให้กับเด็กๆ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่จะขายของออนไลน์หรือสืบค้นข้อมูลนำมาประกอบอาชีพได้ ซึ่งจาก 1 ปีที่ผ่านมาถือว่าศูนย์แห่งนี้มีประโยชน์อย่างมาก แม้ว่าบางที่อาจจะมีปัญหาเยอะ แต่ที่นี่ถือว่ามีปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของม็อบนักศึกษาที่ส่วนใหญ่จะใช้โลกออนไลน์เคลื่อนไหว น.ส.กัลยา กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐานที่สามารถทำได้ ที่ผ่านมาในการชุมนุมยุคปัจจุบันมีการใช้อินเตอร์เน็ตเยอะจนบางครั้งใช้งานไม่ได้ จนหลายคนคิดว่าถูกตัดสัญาณ ซึ่งกมธ.ได้เชิญผู้ให้บริการมาชี้แจงแล้ว พบว่าเป็นเพราะมีการใช้งานจำนวนมาก จนสัญญาณล่มในบางระยะ
"ไม่ได้มีการตัดสัญญาณแต่อย่างใด ส่วนการชุมนุมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย อยากให้มีมาตรการระวังตัว เพราะช่วงนี้โควิดยังมีการระบาด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าในการชุมนุมที่คนเยอะๆ จะมีเชื้อหรือไม่ เราต้องระวังตัว ซึ่งเป็นห่วงตรงนี้มากกว่า" น.ส.กัลยา กล่าว
ด้าน นายชาญวิทย์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วง คือ เรื่องการศึกษาของเด็ก ซึ่งที่นี่ถือว่าค่อนข้างห่างไกล แต่การที่มีศูนย์ USO Net จะสามารถช่วยเสริมสร้างความรู้ให้เด็ก สามารถสืบค้นข้อมูลนำไปเรียนรู้ในชีวิตได้