
ซึ่ง ดร. ชเนตตี บอกว่า นี่คือปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างของสังคมวัฒนธรรม ภายใต้อิทธิพลของระบบคิดแบบ "ชายเป็นใหญ่" ที่จะต้องปรับเปลี่ยนโดยด่วน
"จะเห็นว่าผู้ชายจะถูกตำหนิน้อยที่สุด เพราะเราวางรากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ ให้ผู้ชายถูกปรนนิบัติจากภรรยา คือถ้าผู้ชายรู้สึกว่าไม่โอเค ไม่เพียงพอ ระบบคิดแบบนี้ก็จะเปิดช่องทางให้เขาไปเสาะแสวงหาความสุขจากผู้หญิงคนอื่นๆ แบบไม่รู้จักจบสิ้น และสังคมก็จะกลับมาตั้งคำถามกับภรรยาหลวงว่า ทำหน้าที่อะไรบกพร่องหรือเปล่า ปฏิบัติหน้าที่ไม่ดีพอหรือเปล่า เขาถึงนอกใจ ซึ่งมันไม่ยุติธรรม"
"และระบบการคิดแบบนี้ ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากต้องกลายเป็นเมียน้อย ซึ่งการเป็นเมียน้อย ถ้าวิเคราะห์ให้ถูกต้อง และลึกพอ เราจะพบว่า การเป็นเมียน้อยไม่ใช่อุปนิสัยนะคะ ไม่ใช่นิสัยที่อยากจะเป็น แต่โครงสร้างทางวัฒนธรรมสังคม ผลักให้ผู้หญิงบางส่วน มีความรู้สึกว่า จะได้พึ่งพิงผู้ชายในทางเศรษฐกิจ แล้วเขาจะปกป้องเราได้ แม้ปัจจุบันสิทธิสตรี จะมีความก้าวหน้าไปในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงทั้งหมด จะก้าวข้ามวิธีคิดที่จะหลุดพ้นจากการพึ่งพิงคนอื่น"
"ถ้าเกิดขึ้นกับครอบครัวใคร มันเป็นแผลที่ร้าวลึก ยิ่งมีเด็กเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จะเปราะบางมาก ชาวโซเชียลต้องระวัง ไม่ควรเชื่อมโยงบุคคลแวดล้อม อย่าพยายามขยายผลให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โต "
"เพราะระบบนี้ ทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าเขามีอำนาจ ที่จะกำหนดชะตาชีวิต หรือ Lifestyle ในเรื่องเพศของเขาได้ตามอำเภอใจ อันนี้เราก็ต้องสอนลูกผู้ชายใหม่ด้วยนะคะ เรื่องเพศมันจะต้องมาจากความเท่าเทียมกันในสังคม"
นอกจากนี้ อาจารย์ยังได้ย้ำถึงประเด็นสำคัญหนึ่ง คือเราต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ตหรือความเชื่อที่ว่า ความสมบูรณ์แบบในชีวิตคู่ไม่ได้มีแบบเดียว ไม่จำเป็นต้องมีพ่อ-แม่-ลูกครบถึงจะเป็นครอบครัวที่ดีที่สุด ก็จะช่วยทำให้ผู้หญิงหลายคนเข้มแข็งขึ้น ไม่ติดกับดักของความรุนแรง และสามารถที่จะตัดสินใจ ก้าวออกจากความสัมพันธ์นั้นได้อย่างง่ายดายขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องทน แล้วก็อยู่ในวังวนของการใช้อำนาจของการนอกใจ
"ที่เราต้องฝืนทน ฝืนที่จะให้ความยินยอม โดยที่เราไม่ได้พร้อมใจกันเลย เราสามารถที่จะทำครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ในแบบใหม่ๆ ในวิธีอื่นๆ ได้อีกมากมายค่ะ"
ดร.ชเนตตี บอกทางออกของปัญหานี้ว่า เราต้องสร้างพื้นที่ให้คนรับรู้ว่า การสร้างอำนาจร่วมกันระหว่างหญิง-ชาย การรับฟัง แบ่งปัน เอื้ออาทร มีเมตตากรุณาต่อกัน เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าที่จะให้มีใครมีบทบาทนำคนอื่น ซึ่งจะสามารถหยุดความรุนแรงในครอบครัวได้