"เทพไท"มั่นใจไร้คนขวางแก้รัฐธรรมนูญ
"เทพไท เสนพงศ์" มั่นใจไม่มีใครกล้าขวางแก้รัฐธรรมนูญ ชี้หากทำก็ตกขบวนประชาธิปไตย แถมซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมืองให้รุนแรงจนบานปลายไปสู่วิกฤต ยันปชป.หนุนตัดอำนาจส.ว. ไม่ถือเป็นกบฏ แต่คืออุดมการณ์และจุดยืนของพรรค
(4 กันยายน 2563) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่อการเสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งในขณะนี้ส.ว.มีความคิดแตกต่างกันหลายรูปแบบ บางฝ่ายเห็นว่าควรรับ บางฝ่ายก็เห็นว่า ควรแก้เป็นรายมาตรา แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร คงมีแต่ความเคลื่อนไหวเพื่อเสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อประเมินท่าทีของส.ว.ตอนนี้แล้ว กระแสต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญลดน้อยลงไปมาก มีเพียงแต่จะแก้ไขกันอย่างไรเท่านั้น ส่วนกระแสข่าวว่ามีส.ว.ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น น่าจะเป็นการปล่อยข่าว เพื่อหยั่งกระแสทางการเมืองมากกว่า เพราะขณะนี้ถ้ามีกลุ่มใดต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ก็จะตกขบวนประชาธิปไตย เป็นพวกไดโนเสาร์เต่าล้านปีในยุคนี้อย่างแน่นอน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองของฝ่ายก้าวหน้า กำลังรุกไล่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมอย่างเห็นได้ชัด
นายเทพไท กล่าวต่อว่า จากจุดเริ่มต้นที่ฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด จนยินยอมให้แก้ไขเป็นรายมาตรา พัฒนาจนถึงแก้ไขมาตรา 256 เพื่อปลดล็อกวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ง่ายขึ้น และรุกคืบต่อจนถึงการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จนบัดนี้มีการเรียกร้องให้แก้มาตรา 272 เพื่อปิดสวิทซ์ ส.ว.ไม่ยอมให้เลือกนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นแล้ว และอาจจะก้าวหน้าในประเด็นอื่นต่อไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม เพราะภายในเดือนก.ย.นี้ จะมีการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก เพื่อปิดสวิทซ์ ส.ว.อย่างแน่นอน ถ้าหากฝ่ายการเมืองทั้งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน ตามกระแสการเมืองไม่ทัน และฝืนกระแสของสังคม ก็จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรง จนนำไปสู่จุดวิกฤตของบ้านเมืองได้
สำหรับการเคลื่อนไหวของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางส่วน ต่อการเสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ไม่ได้เป็นกบฏของพรรคแต่อย่างใด เพราะการแก้ไขมาตรา 272 สอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค ข้อ 4 และตรงกับจุดยืนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค ที่ได้ให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขมาตรา 272 กับสื่อมวลชนมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง น่าจะเป็นกลุ่มพิทักษ์อุดมการณ์พรรค และจุดยืนของหัวหน้าพรรคมากกว่า ดังนั้นเห็นว่าการเสนอแก้มาตรา 272 ได้เป็นไปตามหลักการและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกประการ