svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สมศักดิ์"ยันไม่เคยหละหลวมคุมโควิดในเรือนจำ

04 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"รมว.ยุติธรรม" ยันไม่เคยหละหลวมมาตรการโควิดในเรือนจำ แจงที่ผ่านมาไม่เคยพบเชื้อเพราะใส่ใจอยู่เสมอ ชี้ที่เจอเป็นผู้ต้องขังใหม่ ย้ำมีห้องกักโรค 14 วันเพื่อหาเชื้อ ก่อนนำตัวเข้าแดน กำชับต้องกลับมาเข้มงวด แต่ไม่ห้ามญาติเข้าเยี่ยม

(4 กันยายน 2563) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด- 19 ในเรือนจำ ว่า จากการตรวจพบเชื้อโควิด -19 เป็นการตรวจพบในนักโทษใหม่ คือ นายพุฒิพัฒน์ ศิริพัฒน์ ซึ่งเป็นดีเจ ในแดนแรกรับก่อนเข้าสู่แดนปกติ ณ เรือนจำทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง

ทั้งนี้ โดยถูกจับในคดียาเสพติดตั้งวันที่ 26 ส.ค. 2563 และได้รับการกักกันตัวในห้องแยก ตามนโยบายกรมราชทัณฑ์ โดยกักรวมกับผู้ต้องขังอีก 32 คน ซึ่งล่าสุดได้มีการประสานกับกรมราชทัณฑ์ ย้ายผู้ติดเชื้อจากเรือนจำไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว และมีการกักกันผู้ต้องขัง ที่อยู่ในหอนอนเดียวกันต่อเนื่องจนครบ 14 วัน จากนั้นจะตรวจหาเชื้ออีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า มีคนมองว่าการตรวจพบเชื้อในครั้งนี้เกิดจากการหละหลวมในการควบคุมเชื้อ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้หละหลวม การตรวจพบเชื้อครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตรวจพบเชื้อของนักโทษในเรือนจำ แต่เป็นการตรวจพบเชื้อในนักโทษใหม่ ที่พึ่งเข้ามา ซึ่งมีมาตรการในการรับนักโทษใหม่อยู่แล้ว ที่จะต้องกักตัวในแดนแรกรับก่อน 14 วันเพื่อหาเชื้อ

"หากเราพบก็จะทำการแยกตัวทันที ซึ่งกรณีนี้เขาเป็นดีเจที่ทำงานในร้านอาหารหลายแห่ง ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะต้องสืบหาที่มาของเชื้อต่อไป ทั้งนี้กรมราชทัณฑ์ ยังมีมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิดในเรือนจำ โดยเฉพาะแดนแรกรับที่จะต้องมีการคัดกรองอย่างเข้มงวด" นายสมศักดิ์ กล่าว


อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในเรือนจำไม่เคยมีเชื้อโควิด เพราะส่วนตัวใส่ใจอยู่เสมอ และคิดว่าหากเชื้อโควิดแพร่ระบาดเข้าสู่เรือนจำ จะควบคุมได้ยาก และเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลาเกิดโควิด ได้มอบนโยบายสร้างห้องกักโรค ตั้งแต่เดือน เม.ย. ซึ่งมีทุกเรือนจำ ดังนั้น ในกรณีนี้ ดีเจที่เข้ามายังอยู่ในห้องกักโรค ยังไม่ได้เข้าสู่แดนผู้ต้องขัง จึงยังไม่มีการแพร่ระบาดสู่ผู้ต้องขังในเรือนจำแต่อย่างใด อีกทั้ง ที่ผ่านมาไม่ได้หย่อนยานในการตรวจโรค แม้แต่ผู้ต้องหาที่ออกไปขึ้นศาล เมื่อกลับเข้ามาก็ต้องมีการเข้าห้องกักโรคด้วยเช่นกัน

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากนี้จะต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดกว่าเดิม เพราะก่อนหน้านี้ที่สถานการณ์ในประเทศไทยปลอดผู้ติดเชื้อมากว่า 100 วัน ก็ได้มีการผ่อนคลายไปบ้าง แต่เมื่อพบเหตุการณ์เช่นนี้ ก็คงต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้นจากเดิม 60-70% เป็น 80-90% ส่วนการเข้าเยี่ยมญาตินั้น ก็คงต้องมีการคัดกรองที่เข้มงวดกว่าเดิมด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้ห้ามเยี่ยม เพื่อป้องกันญาติที่เข้าเยี่ยมนำเชื้อมาแพร่สู่ผู้ต้องขังด้วย

logoline