svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เลือกตั้งสหรัฐฯ "จีน" เลือก "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" ?

03 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ระหว่าง "โดนัลด์ ทรัมป์" กับ "โจ ไบเดน" คุณคิดว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และรัฐบาลจีนอยากให้ใครชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ? ในการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งทรัมป์และไบเดนต่างก็โจมตีอีกฝ่ายว่ายอม "อ่อนข้อ" ให้กับจีน โดยทรัมป์กล่าวในการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ถ้าไบเดนซึ่งทรัมป์เรียกว่าเป็น "หุ่นเชิดของจีน" ชนะเลือกตั้ง จีนจะ "ครอง" อเมริกา คนอเมริกันอาจต้องไปเรียนภาษาจีนกันหมด แต่หากเขาชนะ สหรัฐฯ จะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาจีนอีกเลย

เลือกตั้งสหรัฐฯ "จีน" เลือก "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" ?


ด้านไบเดนโจมตีว่า ตั้งแต่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี จีนมีแต่แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่อเมริกาอ่อนแอลง โดยชี้ให้เห็นถึงผลพวงของ "สงครามการค้า" ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ส่งผลแง่ลบต่อผู้ประกอบการในสหรัฐฯ มากกว่าในจีน และแม้จะทำข้อตกลง "เฟส 1" ไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแทบไม่มีผลในทางปฏิบัติ

เลือกตั้งสหรัฐฯ "จีน" เลือก "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" ?


แล้วแบบนี้จีนอยากให้ใครชนะเลือกตั้งกันแน่? ในมุมมองของหน่วยงานความมั่นคงในสหรัฐฯ มองว่า จีนชอบ "ไบเดน" มากกว่า โดยผอ.ศูนย์ต่อต้านข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า จีนต้องการให้ทรัมป์แพ้เลือกตั้ง เพราะจีนมองว่าทรัมป์เป็นคนที่ "คาดเดาไม่ได้"

เลือกตั้งสหรัฐฯ "จีน" เลือก "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" ?


มีหลายเหตุผลที่อาจอธิบายได้ว่า ทำไมจีนถึงอยากให้ไบเดนชนะ เพราะอย่างน้อยไบเดนก็มีจุดยืนสนับสนุนการค้าเสรีและข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ อย่างที่เคยผลักดันข้อตกลง "ทีพีพี" สมัยที่ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดี สวนทางกับทรัมป์ที่โจมตีว่า การที่จีนได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกคือ "หายนะ" ของอเมริกา

เลือกตั้งสหรัฐฯ "จีน" เลือก "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" ?


ไบเดนสนับสนุนความร่วมมือของนานาชาติในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนซึ่งจีนเองก็เป็นตัวตั้งตัวตีในด้านนี้เช่นกัน ทำให้อย่างน้อยสองประเทศก็ยังพอมีประเด็นที่ "คุยกันรู้เรื่อง" อยู่บ้าง ไม่เหมือนทรัมป์ที่มองว่า โลกร้อนเป็นเรื่อง "ลวงโลก" และนำสหรัฐฯ ถอนตัวจากความตกลงปารีสที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

ขณะเดียวกันหากเราย้อนไปดูประวัติของไบเดนตลอดช่วงเวลาเกือบ 50 ปีในแวดวงการเมือง ปรากฏว่า ไบเดนเป็นนักการเมืองสหรัฐฯ คนแรกๆ ที่เดินทางไปเยือนจีน เพียงแค่ไม่กี่เดือนหลังสหรัฐฯ กับจีนแผ่นดินใหญ่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว แถมไบเดนยังเคยโม้ด้วยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นผู้นำต่างประเทศที่เขาสนทนาเป็นการส่วนตัวด้วยนานที่สุด
ที่สำคัญไบเดนในวัยย่าง 78 ปี ซึ่งหากชนะเลือกตั้งจะเป็นประธานาธิบดีที่ "แก่ที่สุด" ในประวัติศาสตร์ อาจอยู่ในตำแหน่งแค่สมัยเดียวเท่านั้น เหมือนกับเป็น "ผู้นำขัดตาทัพ" ดังนั้น จีนจึงอาจมองว่า ไบเดนคงจะทุ่มเวลาให้กับการสะสางวิกฤตภายในประเทศมากกว่าจะไปงัดข้อกับจีน
อย่างไรก็ตามชาวจีนหลายคนกลับเห็นต่าง มองว่าจีนอยากให้ทรัมป์ชนะมากกว่า รวมทั้งหู สีจิน บรรณาธิการคนดังของโกลบอลไทมส์ สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลจีนที่บอกว่า ขอให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีต่อไป ทั่วโลกจะได้ "เกลียดอเมริกา" ยิ่งกว่าเดิม!

เลือกตั้งสหรัฐฯ "จีน" เลือก "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" ?


ถ้าจะมองแบบนี้จริงๆ ก็มีหลายเหตุผลสนับสนุนเช่นกัน โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ลดบทบาทสหรัฐฯ ในเวทีโลกลงอย่างชัดเจนด้วยการถอนตัวจากเวทีและข้อตกลงระหว่างประเทศมากมาย โดยเฉพาะ "องค์การอนามัยโลก" ที่ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกมาด้วยข้อกล่าวหา "เข้าข้างจีน" เรื่องโควิด-19 สวนทางกับสี จิ้นผิงที่ใช้เวทีเดียวกันนี้เพิ่มความสนับสนุนทางการเงินให้อนามัยโลก พร้อมประกาศให้วัคซีนโควิด-19 ของจีนเป็น "สินค้าสาธารณะ" ของโลก


นอกจากนี้ทรัมป์ยังเปิดศึกวิวาทะกับผู้นำชาติพันธมิตรสำคัญของตัวเองบ่อยครั้ง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี จนทำให้สายสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นต้องสั่นคลอน ในทางตรงกันข้าม ทรัมป์กลับอวดอ้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำเผด็จการของชาติศัตรูอย่างคิม จอง-อึน แห่งเกาหลีเหนือ จนครั้งหนึ่งทรัมป์ถึงกับอ้างว่าเขากับคิม "รักกัน"
การชุมนุมและเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ไม่เว้นแต่ละวัน เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างดีที่แสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่ทรัมป์เข้ามา เขาทำให้สังคมอเมริกา "แตกแยก" ขนาดไหน ในทางกลับกัน ทรัมป์กลับช่วย "ปลุกใจชาวจีน" ให้ฮึมเหิมรักชาติ ด้วยนโยบายแบน "หัวเว่ย" และ"ติ๊กต๊อก" จากข้ออ้าง "ภัยความมั่นคง" ที่คนจีนมองว่าเป็นการ "หาเหตุ" กลั่นแกล้ง
ในการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนไม่ได้เลือกกันแค่ตำแหน่งประธานาธิบดีเท่านั้น แต่เลือกทั้ง ส.ส. ส.ว. และนักการเมืองท้องถิ่นอีกหลายตำแหน่ง จึงมีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะกลายเป็น "เป็ดง่อย" นั่นคือ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่สูญเสียเสียงข้างมากในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ทำให้การผ่านกฎหมายและดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างยากลำบาก เหมือนที่เคยเกิดกับโอบามาในช่วงสมัยที่ 2 ซึ่งหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ทรัมป์ก็อาจกลายเป็น "ลูกเป็ดในกำมือ" ของจีน

เลือกตั้งสหรัฐฯ "จีน" เลือก "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" ?


สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป จีนก็คงเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ ไม่น้อยไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เห็นได้จากการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ชาวอเมริกันถึง 73% หรือเกือบ 3 ใน 4 ของทั้งประเทศมองจีนใน "แง่ลบ" ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วกว่า "2 เท่า" นอกจากนี้หากแยกกลุ่มตามพรรคการเมืองที่สนับสนุนแล้วจะพบว่า ผู้สนับสนุนของทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต "ส่วนใหญ่" ต่างก็มองจีนในแง่ลบทั้งคู่ โดยผู้สนับสนุนรีพับลิกันมองจีนแง่ลบมากกว่าพรรคเดโมแครตถึง 15%
ด้วยเหตุนี้ ต่อให้ไบเดนชนะ นโยบายต่างๆ ที่ทรัมป์เคยกดดันจีนไว้ ไบเดนก็คงไม่ "ยูเทิร์น" กลับในทันที ตราบใดที่ชาวอเมริกันทุกฝ่ายยังคงมองจีนในแง่ลบมากขนาดนี้ แถมไบเดนยังอาจเพิ่มแรงกดดันด้าน "สิทธิมนุษยชน" เข้าไปอีกตามสไตล์พรรคเดโมแครตก็เป็นได้
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเคยกล่าวไว้ว่า สิ่งที่สหรัฐฯ ทำไปก็เพราะ "กลัวการเติบโต" ของจีน ดังนั้น ยิ่งสหรัฐฯ กดดันหนักเท่าไหร่ ก็ยิ่งตอกย้ำว่า จีนกำลัง "เดินมาถูกทาง" แล้ว

เลือกตั้งสหรัฐฯ "จีน" เลือก "ทรัมป์" หรือ "ไบเดน" ?

logoline